สงครามขยับใกล้เอเชีย! จีนและรัสเซียลาดตระเวนร่วม บินเฉียดใกล้ชาติพันธมิตรสหรัฐฯ

จีนและรัสเซียปฏิบัติการลาดตระเวนร่วมของกองทัพอากาศเหนือทะเลญี่ปุ่นและทะเลจีนตะวันออกในวันอังคาร (6 มิ.ย.) กระตุ้นให้เกาหลีใต้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้า ตอบโต้เครื่องบินรบเหล่านั้นที่บินเฉียดใกล้น่านฟ้าของพวกเขา

ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมจีนระบุว่าปักกิ่งกับมอสโก "ทำการลาดตระเวนทางอากาศร่วมกันเป็นครั้งที่ 6 ตามแผนความร่วมมือทางทหารประจำปีระหว่างจีนและรัสเซีย" อย่างไรก็ตาม คำแถลงดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเที่ยวบินนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเหนือน่านฟ้าตามแนวเขตแดนญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลีและไต้หวัน

เกาหลีใต้ระบุว่า เครื่องบินทหารรัสเซีย 4 ลำและจีน 4 ลำ ล่วงล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องภัยทางอากาศ (ADIZ) ของพวกเขา ตอนราวเที่ยงวันของวันอังคาร (6 มิ.ย.) กระตุ้นให้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้า

ทั้งนี้ ADIZ คือพื้นที่หนึ่งที่กว้างขวางกว่าน่านฟ้าของประเทศ มันถูกใช้สำหรับควบคุมอากาศยานในเหตุผลด้านความมั่นคง แต่กรอบแนวคิดของมันไม่ได้ถูกระบุในสนธิสัญญาระหว่างประเทศใดๆ

คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่ากองทัพเกาหลีใต้ตรวจพบเครื่องบินของจีนและรัสเซียก่อนที่เครื่องบินเหล่านั้นจะเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ "เราส่งเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศของเราขึ้นไป เพื่อดำเนินมาตรการทางเทคนิค เตรียมพร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉินใดๆ" ถ้อยแถลงระบุ อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกว่าเครื่องบินต่างชาติทั้ง 8 ลำ ไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของเกาหลีใต้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (3 มิ.ย.) เห็นพ้องแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ เกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ในช่วงปลายปี

เมื่อถูกถามถึงการลาดตระเวนทางอากาศร่วมกันระหว่างรัสเซียกับจีน ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกามุ่งมั่นทำงานร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในเรื่องอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง และพันธมิตรให้ความใส่ใจกับทุกความเคลื่อนไหว "ที่สามารถตีความได้ว่าเป็นบ่อนทำลายเสถียรภาพหรือขาดความยั้งคิด"

เกาหลีใต้สนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย ลงโทษกรณีรุกรานยูเครน และส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้เคียฟ อย่างไรก็ตามโซลมีข้อผูดมัดตามกฎระเบียบของตนเอง ที่ห้ามจัดหาความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ประเทศต่างๆ ที่อยู่ในความขัดแย้ง

จีน ประกาศตนว่าเป็นชาติเป็นกลางในสงครามยูเครน แต่พวกเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากตะวันตกต่อกรณีปฏิเสธประณามมอสโกและสำหรับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย

ในดือนกุมภาพันธ์ ปักกิ่งเผยแพร่เอกสารฉบับหนึ่ง เรียกร้อง "ทางออกทางการเมือง" ต่อความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งตะวันตกเตือนว่ามันอาจเป็นการเปิดทางให้รัสเซียครอบครองดินแดนส่วนใหญที่พวกเขายึดได้ในยูเครน

ระหว่างการประชุมซัมมิตในกรุงมอสโก เมื่อเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เชิญประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เดินทางเยือนปักกิ่ง และทั้งสองผู้นำได้ประกาศว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติกำลังเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

(ที่มา : เอเอฟพี)