ทำจริง!เกาหลีเหนือส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่อวกาศ ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้แตกตื่นแจ้งเตือนนึกว่ายิงขีปนาวุธ

เกาหลีเหนือยิงสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่ท้องฟ้าในวันพุธ(31พ.ค.) จากการเปิดเผยของกองทัพเกาหลีใต้ ก่อให้เกิดความสับสนในกรุงโซลและญี่ปุ่น ที่ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนช่วงสั้นๆ ก่อนยกเลิกในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดหมายว่ามันอาจประสบความล้มเหลว

คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้เปิดเผยว่าทางกองทัพตรวจพบการยิงในสิ่งที่เปียงยางระบุว่าเป็นดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงหนึ่ง จากพื้นที่เทศมณฑลถงชาง จังหวัดพย็องอันเหนือ ในเกาหลีเหนือ ตอนราวๆ 6.29 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันนี้(31พ.ค.) ในทิศทางมุ่งไปทางใต้ พร้อมเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามันเป็นการยิงที่ประสบความสำเร็จหรือไม่

สำนักข่าวยอนฮับ สื่อมวลชนเกาหลีใต้ รายงานว่าเวลานี้ทางกองทัพกำลังวิเคราะห์ว่า "สิ่งที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นยานขนส่งอวกาศ ซึ่งมีเจตนาอย่างเห็นได้ชัดบรรทุกดาวเทียมดวงหนึ่งขึ้นสู่วงโคจร อาจแตกออกกลางอากาศหรือร่วงตกลงมา หลังมันสูญหายไปจากจอเรดาร์ก่อนหน้านี้"

"จรวดสูญหายไปจากจอเรดาร์หลังมันไปถึงจุดส่งตามที่คาดหมายไว้" ยอนฮับรายงานโดยอ้างคณะเสนาธิการเกาหลีใต้ พร้อมระบุทางกองทัพกำลังตรวจสอบความเป็นไปได้มันเกิดระเบิดกลางอากาศหรือร่วงตกลงมา"

เกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร(30พ.ค.) ยืนยันว่ามีแผนยิงสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ดาวเทียมลาดตระเวนทางทหารหมายเลข1" ก่อนวันที่ 11 มิถุนนายน และเผยว่าได้แจ้งไปยังญี่ปุ่น เกี่ยวกับแผนดังกล่าวแล้วหนึ่งวันก่อนหน้านี้

โตเกียวและโซล ต่างวิพากษ์วิจารณ์แผนปล่อยดาวเทียมดังกล่าว โดยบอกว่ามันจะละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ที่ห้ามเปียงยางจากการทดสอบใดๆที่ใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ

สืบเนื่องจากจรวดพิสัยไกลและจรวดขนส่งทางอากาศใช้เทคโนโลยีเดียวกัน พวกนักวิเคราะห์จึงชี้ว่าการพัฒนาศักยภาพในการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร จะเปิดทางให้เปียงยางอำพรางการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM) ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ

ไม่นานหลังจากการยิง เจ้าหน้าที่เมืองในกรุงโซล ได้ส่งข้อความฉุกเฉินแจ้งเตือนประชาชน โดยบอกว่า "พลเมืองทุกท่าน กรุณาเตรียมพร้อมสำหรับอพยพและเปิดทางให้เด็กๆและคนชราอพยพเป็นลำดับแรก" ท่ามกลางเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมในย่านใจกลางเมืองหลวงของเกาหลีใต้

การแจ้งเตือนดังกล่าวก่อความอกสั่นขวัญแขวนและความสับสนบนทวิตเตอร์ ก่อนที่อีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้ จะออกมาชี้แจงว่ามันเป็นประกาศแจ้งเตือนที่ไม่ถูกต้อง

ส่วนญี่ปุ่น ก็ได้เปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธของตนเองเช่นกัน ในภูมิภาคโอกินาวา ในตอนเช้าวันพุธ(31พ.ค.) หลังจากกองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเกาหลีเหนือได้ยิงในสิ่งที่เรียกว่ายานขนส่งอวกาศ "มีการยิงขีปนาวุธ ดูเหมือนเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ กรุณาหลบภัยในอาคารหรือใต้ดิน" ข้อความแจ้งเตือนที่ทวีตโดยสำนักนายกรัฐมนตรีและเผยแพร่โดยสำนักข่าวเอ็นเอชเค สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ

อย่างไรก็ตามในอีกราวๆ 30 นาทีต่อมา รัฐบาลเขียนบนทวิตเตอร์ ยกเลิกประกาศแจ้งเตือนดังกล่าว

"คิม จองอึน ทำตามในสิ่งที่เขาพูด และปล่อยดาวเทียมสอดแนมในวันนี้" ซู คิม จากบริษัทที่ปรึกษาแอลเอ็มไอและอดีตนักวิเคราะห์ของซีไอเอบอกกับเอเอฟพี "สิ่งที่กังวลกันก็คือ การยิงดาวเทียมนี้เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ ซึ่งละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"

พวกผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ปัจจุบันเกาหลีเหนือไม่มีดาวเทียมปฏิบัติการในอวกาศ นับตั้งแต่ปี 1998 เปียงยางทำการปล่อยดาวเทียมมาแล้ว 5 ดวง โดย 3 ในนั้นล้มเหลวในทันที ส่วนอีก 2 ดวงดูเหมือนจะเข้าสู่วงโคจร แต่ไม่เคยตรวจพบสัญญาณของพวกมันเลย บ่งชี้ว่าดาวเทียมเหล่านั้นอาจเกิดขัดข้อง

เมื่อวันอังคาร(30พ.ค.) เกาหลีเหนือเปิดเผยว่าดาวเทียมใหม่ของพวกเขาจะมีความจำเป็นสำหรับ "ติดตาม สังเกตการณ์และรับมือล่วงหน้าแบบเรียลไทม์ ความเคลื่อนไหวทางทหารที่เป็นอันตรายของสหรัฐฯและเหล่ากองกำลังบริวารของอเมริกา"

เจ้าหน้าที่ทางทหารระดับสูงของเกาหลีเหนือ วิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงการซ้อมรบกระสุนจริงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ว่ามันทำให้เปียงยางรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องยกระดับการสอดแนมและหนทางเข้าถึงข้อมูล รวมถึงปรับปรุงอาวุธในเชิงรุกและอาวุธสำหรับป้องกันตนเอง"

มีรายงานว่า เปียงยาง ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของพวกเขา ได้แจ้งไปยังองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง เกี่ยวกับแผนการที่อ้างว่าเป็นการปล่อยดาวเทียมเพื่อสันติขึ้นสู่อวกาศ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังได้แจ้งไปยังญี่ปุ่นในวันจันทร์(29พ.ค.) ว่ามีแผนยิงจรวดระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 11 มิถุนายน

นับตั้งแต่ความพยายามทางการทูตพังครืนลงในปี 2019 เกาหลีเหนือ เพิ่มความพยายามในการพัฒนาด้านการทหารเป็น 2 เท่า ทำการทดสอบอาวุธต้องห้ามเป็นชุดๆ ในนั้นรวมถึงการยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปไปแล้วหลายครั้ง

ในปีที่แล้ว คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ประกาศว่าประเทศของเขาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่ไม่อาจย้อนคืนได้ และเรียกร้องให้ยกระดับการผลิตอาวุธต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธทางเทคนิค

คิม ระบุว่าการพัฒนาดาวเทียมทางทหาร เป็นโครงการสำคัญด้านการป้องกันตนเอง และในเดือนนี้ได้เดินทางไปตรวจตราดาวเทียมทหารดวงแรกของประเทศ ขณะที่มันพร้อมสำหรับถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ และให้ไฟเขียวสำหรับแผนปฏิบัติการในอนาคตของมัน

"ไม่ว่าภารกิจดาวเทียมของเกาหลีเหนือในปัจจุบันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ คาดหมายได้เลยว่าเปียงยางจะใช้ประเด็นนี้เป็นโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง เกี่ยวกับแสนยานุภาพทางอวกาศของพวกเขา" ลีฟ เอริค แอสลีย์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอีฮวา ในกรุงโซลกล่าว

(ที่มา:เอเอฟพี)