เกาหลีเหนือกล่าวอ้างเมื่อวันเสาร์ (8 เม.ย.) ได้ทำการทดสอบอีกรอบโดรนโจมตีนิวเคลียร์ใต้น้ำ ในความเคลื่อนไหวล่าสุดตอบโต้การซ้อมรบร่วมทางทหารระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ แม้บรรดานักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยว่าเปียงยางมีอาวุธดังกล่าวจริงหรือไม่
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทำการทดสอบในสิ่งที่สื่อมวลชนแห่งรัฐให้คำจัดความว่าเป็นโดรนใต้น้ำที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ และยังสามารถทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปได้อีกด้วย
"สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ป้องกันตนเองแห่งชาติแห่งหนึ่งในเกาหลีเหนือ ได้ดำเนินการทดสอบระบบอาวุธยุทธศาสตร์ใต้น้ำ ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 7 เมษายน" สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงาน "โดรนนิวเคลียร์โจมตีใต้น้ำแฮอิล-2 ร่อนใต้น้ำเป็นระยะทาง 1,000 กิโลเมตร เป็นเวลา 71 ชั่วโมง 6 นาที"
เคซีเอ็นเอรายงานเพิ่มเติมว่า "หัวรบที่ทำการทดสอบจุดชนวนระเบิดใต้น้ำอย่างแม่นยำ การทดสอบเป็นการพิสูจน์ที่สมบูรณ์แบบต่อความน่าเชื่อถือของระบอาวุธยุทธศาสตร์ใต้น้ำ และศักยภาพการโจมตีถึงตายของมัน"
จนถึงตอนนี้เกาหลีเหนือกล่าวอ้างว่าได้ดำเนินการทดสอบโดรนใต้น้ำไปแล้ว 3 ครั้งในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึง 3 สัปดาห์ โดยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พวกเขาอ้างว่าได้ทำการทดสอบโดรนแฮอิล ซึ่งมีความหมายว่า "สึนามิ" ในภาษาเกาหลี เป็นครั้งแรก พร้อมกล่าวอ้างว่ามันมีศักยภาพในการปลดปล่อย "สึนามิกัมมันตภาพรังสี" และกล่าวโทษการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ว่าทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคเสื่อมทราม
อีก 5 วันต่อมา พวกเขาได้ทำการทดสอบโดรนใต้น้ำที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2
ในการตอบโต้ รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ว่า โซลมีศักยภาพในการเฝ้าระวังและตรวจจับโดรนดังกล่าวที่แทรกซึมมาจากใต้น้ำ
ภาพถ่ายดาวเทียมยังบ่งชี้ถึงความเคลื่อนไหวระดับสูง ณ ศูนย์นิวเคลียร์หลักของเกาหลีเหนือ ตามหลังผู้นำ คิม จองอึน ออกคำสั่งให้ยกระดับการผลิตวัสดุนิวเคลียร์เกรดอาวุธ
ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือประกาศตนเองว่าเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่ไม่อาจย้อนกลับได้ และ คิม จองอึน เมื่อเร็วๆ นี้เร่งเร้าให้ยกระดับการผลิตอาวุธเป็นทวีคูณ ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์
เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในวันพุธ (5 เม.ย.) ได้ทำการซ้อมรบทางอากาศร่วม โดยมี B-52H เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ศักยภาพติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เกี่ยวข้องด้วยอย่างน้อย 1 ลำ จากการเปิดเผยของกองทัพโซล
เกาหลีเหนือมองการซ้อมรบดังกล่าวว่าเป็นการซักซ้อมการรุกราน และตอบโต้การซ้อมรบอื่นๆ เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ด้วยการยกระดับการทดสอบอาวุธต้องห้ามมากขึ้นเรื่อยๆ
เปียงยางยังเสาะหากลไกการปล่อยอาวุธที่หลากหลาย นอกเหนือจากการยกระดับคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเอง
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่ารัสเซียได้พัฒนาอาวุธแบบเดียวกัน ได้แก่ ตอร์ปิโดโพไซดอนศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ แต่พวกผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเรียนรู้เทคโนโลยีอันซับซ้อนที่จำเป็นสำหรับอาวุธดังกล่าวอาจเหนือกว่าเกาหลีเหนือ
"แต่คำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการทดสอบ ไม่ควรถูกดูเบาอย่างง่ายๆว่าเป็นการโอ้อวดเกินจริง" ชอย กิ-อิล ศาสตราจารย์ศึกษาด้านการทหารแห่งมหาวิทยาลัยซังจี ในเกาหลีใต้ บอกกับเอเอฟพี "ในขณะที่เกาหลีเหนืออาจพูดเกินจริงเกี่ยวกับระดับของความสำเร็จในบางขอบเขต แต่ดูเหมือนพวกเขาต้องการโชว์ให้เห็นถึงรากฐานแห่งความมั่นใจของเปียงยางในเทคโนโลยีนี้ บางอย่างซึ่งอาจได้รับการถ่ายโอนมาจากรัสเซีย"
อย่างไรก็ตาม ชอย กล่าวต่อว่า รัสเซียและเกาหลีเหนือยังไม่แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการถ่ายโอนเทคโนโลยีโดรนใต้น้ำ
(ที่มา : เอเอฟพี)