“มาครง”เร่งเร้า “สี” โน้มน้าวให้รัสเซียกลับมาใช้เหตุผลและยุติสงครามในยูเครน รวมทั้งปฏิบัติตามกฎการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่สื่อของทางการจีนตั้งข้อสังเกตว่า บางกลุ่มในยุโรปและอเมริกาพยายามใช้อิทธิพลขัดขวางไม่ให้การเยือนจีนของผู้นำแดนน้ำหอมประสบความสำเร็จในการกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองชาติ รวมทั้งเพิ่มความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างกัน
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส กล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่ยืนคู่กันหน้ามหาศาลาประชาชนก่อนเข้าประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) ว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียส่งผลกระทบรุนแรงต่อเสถียรภาพระหว่างประเทศ และเขารู้ว่า สามารถพึ่งพิงประมุขจีนในการทำให้รัสเซียยอมใช้เหตุผลและโน้มน้าวให้ทุกฝ่ายกลับสู่โต๊ะเจรจา
ผู้นำแดนน้ำหอมยังขอให้ สี กดดันรัสซียให้ปฏิบัติตามกฎการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยว่า จะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุสซึ่งอยู่ติดกับยูเครน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า อาจทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม
ด้านสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง (ซีซีทีวี) ของทางการจีนรายงานว่า สีตอบมาครงว่า จีนและฝรั่งเศสมีความสามารถและความรับผิดชอบในการก้าวข้ามความแตกต่างและอดกลั้นขณะที่โลกเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง
การเยือนปักกิ่งของมาครง ซึ่งในคราวนี้มี อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป หรือก็คือองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ร่วมอยู่ในคณะของเขาด้วยนั้น เกิดขึ้นหลังจากสัมพันธ์ระหว่างอียูกับปักกิ่งปีนเกลียวจากปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ข้อตกลงการลงทุนระหว่างที่อยู่ในภาวะหยุดชะงัก จนถึงการที่จีนไม่ยอมประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แม้ถูกฝ่ายตะวันตกกดดันอย่างหนัก
กระนั้น ระหว่างการแถลงข่าวหลังเดินทางถึงเมืองหลวงของจีนเมื่อวันพุธ (5) มาครงกล่าวว่า ยุโรปต้องต้านทานเสียงเรียกร้องให้ลดความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตกับจีน รวมทั้งปฏิเสธมุมมองของบางคนที่บอกว่า สัมพันธภาพจีนกับตะวันตกตึงเครียดอย่างไม่อาจหลบเลี่ยงได้
ฟอน แดร์ ไลเอิน มีกำหนดพบสีแบบทวิภาคีในวันพฤหัสฯ เช่นเดียวกัน ก่อนที่ทั้งสามจะหารือกันในช่วงค่ำ
นอกจากนั้น ในตอนเช้า มาครงยังพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ที่มหาศาลาประชาชน ซึ่งผู้นำฝรั่งเศสย้ำความสัมพันธ์ในการหารือระหว่างปักกิ่งกับปารีสในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยปัญหาขณะนี้
ด้านฟอน แดร์ ไลเอินที่ได้ประชุมแยกต่างหากกับหลี่เช่นเดียวกันนั้น บอกกับนายกรัฐมนตรีจีนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป กับจีนซับซ้อนมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องหารือในทุกแง่มุมความสัมพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมภูมิรัฐศาสตร์ที่ผันผวนในปัจจุบัน
ทางฝ่ายหลี่กล่าวว่า การร่วมมือกับอียูและฝรั่งเศสอยู่บน “จุดเริ่มต้นใหม่” ซึ่งควรเคารพกันและกัน รวมทั้งร่วมมือกันในแนวทางที่จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สำหรับจีนนั้นต้องการทำให้แน่ใจว่า ยุโรปจะไม่เดินตามรอยอเมริกาในการพยายามขัดขวางความเจริญรุ่งเรืองของจีน และยังหวังว่า จะเยียวยาความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสได้
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า มาครงและฟอน แดร์ ไลเอิน อาจจะกำลังพยายามเล่นบท “ตำรวจดี-ตำรวจเลว” โดยผู้นำฝรั่งเศสจะส่งเสริมการรีเซ็ตความสัมพันธ์ ขณะที่ผู้นำบรัสเซลส์เน้นประเด็นขัดแย้งและขีดเส้นตายความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยก่อนเดินทางเยือนปักกิ่งไม่กี่วัน ฟอน แดร์ ไลเอินกล่าวว่า ยุโรปต้องตัดความเสี่ยงที่เกิดจากจีนทั้งในทางการทูตและเศรษฐกิจ
ทางด้าน โกลบอลไทมส์ หนังสือพิมพ์ในเครือ “เหรินหมินรึเป้า” ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกบทบรรณาธิการกล่าวว่า การเยือนของ มาครง ถูกคาดหมายว่า จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับฝรั่งเศส รวมทั้งเพิ่มความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างกัน
บทบรรณาธิการยังตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มต่างๆ ในยุโรปและอเมริกากำลังจับตาการเยือนของมาครงอย่างใกล้ชิดและใช้อิทธิพลเพื่อให้เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไม่ใช่ทุกคนที่อยากเห็นการเยือนจีนของผู้นำฝรั่งเศสเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
ทั้งมาครงและฟอน แดร์ ไลเอิน ต่างแสดงความต้องการโน้มน้าวให้จีนใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียเพื่อทำให้เกิดสันติภาพในยูเครน หรืออย่างน้อยก็ปรามไม่ให้ปักกิ่งสนับสนุนการรุกรานของมอสโกโดยตรง
ต้นปีนี้จีนเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อสำหรับวิกฤตยูเครน ซึ่งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการลดความตึงเครียดอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงอย่างครอบคลุม ทว่า แผนการดังกล่าวกลับถูกตะวันตกดับเครื่องชนเนื่องจากจีนยังคงปฏิเสธประณามรัสเซีย ขณะที่อเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวหาว่า ปักกิ่งกำลังพิจารณาส่งอาวุธให้รัสเซีย ซึ่งจีนยืนกรานปฏิเสธ
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)