จีนก็นั่งไม่ติด! วอนคลายวิกฤตยูเครนด้วยสันติวิธี หลังรัสเซียจะประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุส

จีนเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้คลี่คลายวิกฤตสงครามยูเครน "ด้วยสันติวิธี" หลังจากรัสเซียเผยว่าจะประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิคในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเบลารุส ไม่กี่วันหลังจากรับปากร่วมกับปักกิ่ง คัดค้านการประจำการอาวุธนิวเคลียร์นอกเขตแดนของประเทศนั้นๆ

เมื่อถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของมอสโก เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า "ภายใต้กรณีแวดล้อมปัจจุบัน ทุกฝ่ายควรมุ่งเน้นความพยายามทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตยูเครนอย่างสันติ และร่วมกันส่งเสริมผ่อนคลายสถานการณ์"

"ในเดือนมกราคมปีก่อน บรรดาผู้นำของ 5 ชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ออกถ้อยแถลงร่วมกัน ชี้ว่าอาวุธนิวเคลียร์ไม่อาจชนะ หรือนำมาสู้รบ เน้นย้ำว่าสงครมระหว่างรัฐต่างๆ ที่มีอาวุธนิวเคลียร์ควรหลีกเลี่ยง และควรลดความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์ต่างๆ" เหมา กล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในวันจันทร์ (27 มี.ค.)

การประจำการดังกล่าวจะกลายเป็นครั้งแรกที่อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียจะถูกนำไปติดตั้งนอกชายแดนของตนเอง นับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 ตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ มันยังเกิดขึ้นหลังจากรัสเซียข่มขู่ทางนิวเคลียร์หลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปรียบเทียบความเคลื่อนไหวครั้งนี้กับกรณีที่สหรัฐฯ ประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองในดินแดนของพันธมิตรมานานหลายทศวรรษแล้ว "มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเลย" ปูติน กล่าว พร้อมบอกว่าความเคลื่อนไหวนี้จะไม่ละเมิดข้อตกลงไม่แพร่ขยายนิวเคลียร์ของมอสโก

คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วัน หลังจาก ปูติน และสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ลงนามในถ้อยแถลงร่วม ตามหลังการหารือในมอสโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เน้นย้ำว่าสงครามนิวเคลียร์ต้องไม่มีวันถูกปลดปล่อยออกมา

"ทุกมหาอำนาจนิวเคลียร์ต้องไม่ประจำการอาวุธนิวเคลียร์นอกเขตแดนของประเทศของพวกเขา และต้องถอนอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาทั้งหมดที่ติดตั้งในต่างแดน" เอกสารเน้นย้ำ พร้อมเรียกร้องในความพยายามลดความเสี่ยงของการปลดปล่อยสงครามนิวเคลียร์และความขัดแย้งติดอาวุธใดๆ กับอีกฝ่าย

คำแถลงระบุว่า "ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ทรุดโทรมลงระหว่างบรรดามหาอำนาจนิวเคลียร์ มาตรการลดความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์จำเป็นต้องถูกจัดตั้งโดยทั่วไป ในความพยายามลดความตึงเครียดระหว่างรัฐต่างๆ พัฒนาความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์กว่าเดิมและลดความไม่ลงรอยให้เหลือน้อยที่สุดในขอบเขตด้านความมั่นคง"

วอชิงตัน ไม่เชื่อว่ารัสเซียกำลังเตรียมการใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาบอกว่า "เราไม่พบเห็นเหตุผลใดๆ ที่ต้องปรับท่าทีทางยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ของเรา เรายังคงมีภาระหน้าที่ต่อการป้องกันร่วมของพันธมิตรนาโต้"

ปูติน กล่าวโทษพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯ แห่งนี้สำหรับยั่วยุให้รัสเซียโจมตียูเครน

สหรัฐฯ ทุ่มเงินให้ยูเครนไปแล้วมากกว่า 32,600 ล้านดอลลาร์ ในความช่วยเหลือด้านอาวุธและความช่วยเหลือทางทหารในรูปแบบอื่นๆ นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีก่อน

พวกนักสังเกตการณ์มองว่าแแผนประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียอาจก่อความยุ่งยากซับซ้อนแก่จีน ที่กำลังพยายามเป็นคนกลางสานสันติภาพในสงครามยูเครน หลังจากปักกิ่งเผยแพร่ข้อเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเรียกร้องให้ลดความตึงเครียดอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคัดค้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์

นักวิเคราะห์บางส่วนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของรัสเซียจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับตะวันตกเลวร้ายลงไปอีก และอาจทำให้ความพยายามผลักดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพที่นำโดยจีนยุ่งยากกว่าเดิม ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป มีแผนเดินทางเยือนปักกิ่งในสัปดาห์หน้า

(ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์)