ไต้หวันเฝ้าจับตาเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนที่แล่นมาใกล้ในวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) รวมทั้งคำขู่ของปักกิ่งที่จะตรวจสอบเรือทุกลำในช่องแคบไต้หวัน แต่ไม่คาดหมายว่าความตึงเครียดจะบานปลายใหญ่โต ทั้งนี้ภายหลังแดนมังกรประณามรุนแรงการพบปะที่แคลิฟอร์เนีย ระหว่างประธานาธิบดีไทเปกับประธานสภาล่างสหรัฐฯ
เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญอเมริกันถือเป็นผู้นำอาวุโสอันดับที่ 3 พร้อมด้วยสมาชิกรัฐสภาทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตหลายคน ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ที่อาคารหอสมุดประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันพุธ (5) ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตัน-ปักกิ่งอยู่ในช่วงตกต่ำอย่างที่สุด และท่ามกลางคำขู่ของจีนที่จะดำเนินการตอบโต้ เนื่องจากจีนอว่า ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และไม่เคยตัดความเป็นไปได้ที่อาจใช้กำลังเข้ายึดกลับคืนมา
ภายหลังการพบปะหารือ ไช่ แสดงความขอบคุณแมคคาร์ธีและคณะสมาชิกรัฐสภาอเมริกัน โดยเธอระบุว่า แสดงให้เห็นว่า ไต้หวันยังคงได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ
ขณะที่แมคคาร์ธีกล่าวว่า ความเชื่อมั่นในเสรีภาพและประชาธิปไตยที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกันสนับสนุนความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญอย่างลึกซึ้งต่อโลกเสรี พร้อมประกาว่า อเมริกาจะขายอาวุธให้ไต้หวันต่อไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการขัดขวางการรุกรานและเป็นบทเรียนสำคัญที่เรียนรู้จากวิกฤติยูเครนว่า การแซงก์ชันเพียงอย่างเดียวไม่อาจหยุดยั้งพวกที่ต้องการทำสงครามได้
ด้าน ชิว กั๋วเฉิง รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภาในไทเปเมื่อวันพฤหัสฯ (6) ว่า ตรวจพบเรือบรรทุกเครื่องบิน “ซานตง” และเรือรบจีนลำอื่นๆ อีก 3 ลำ แล่นห่างจากชายฝั่งด้านตะวันออกของไต้หวัน 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ในวันพุธและเสริมว่า แม้เรือจีนระบุว่าเป็นการฝึกซ้อม แต่จังหวะเวลาค่อนข้างอ่อนไหว และเรือรบไต้หวันหลายลำจับตาดูโดยรักษาระยะห่าง 5-6 ไมล์ทะเล นอกจากนี้ยังไม่พบเครื่องบินขึ้นจากดาดฟ้าเรือลำดังกล่าว
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมไต้หวันบอกว่า จีนได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือดำน้ำเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน รวมทั้งส่งเรือของหน่วยยามฝั่งหลายลำออกมาตรวจการณ์อย่างผิดปกติ ทำให้ไต้หวันยื่นประท้วง
ชิวเสริมว่า ทางฝ่ายอเมริกา มีเรือบรรทุกเครื่องบิส “นิมิตซ์” แล่นอยู่ห่างจากชายฝั่งด้านตะวันออกของไต้หวันราว 400 ไมล์ทะเล
ด้านกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นก็ระบุว่า พบหมู่เรือรบจีนประกอบด้วยเรือ 3 ลำ ซึ่งนอกจากเรือ “ซานตง” แล้ว ยังมีเรือฟรีเกตและเรือสนับสนุน และเรือรบของฝ่ายญี่ปุ่นกำลังจับตาเรือเหล่านี้ อีกทั้งกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นพบเรือซานตงเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
ทั้งนี้ จีนแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการซ้อมรบใหญ่โตรอบไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ ในขณะนั้น เดินทางเยือนไทเป
มีรายงานว่า ยังมีคณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯชุดหนึ่ง ที่นำโดยไมเคิล แมคคอล ประธานคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎร เดินทางถึงไทเปในวันพฤหัสฯ โดยที่ ไช่ ซึ่งกำหนดเดินทางกลับไทเปในวันศุกร์ (7) จะพบกับคณะของแมคคอว์ในวันรุ่งขึ้น
ทางด้านกระทรวงกลาโหมจีนออกคำแถลงประณามการพบปะระหว่าง ไช่ กับ แมคคาร์ธี และระบุว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะเฝ้าระวังในระดับสูงตลอดเวลา ตลอดทั้งปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างแน่วแน่
อย่างไรก็ตาม โก เฉิงฮง รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน แถลงต่อสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า ไม่คาดว่า จีนจะมีปฏิกิริยาแข็งกร้าวแบบที่เกิดขึ้นภายหลังการเยือนของเพโลซี และสิ่งที่จีนสนใจมากกว่าคือ แมคคาร์ธีจะเยือนไต้หวันหรือไม่
กระนั้น ไทเปยังกังวลกับคำประกาศของจีนเมื่อคืนวันพุธว่า หน่วยงานบริหารความปลอดภัยทางทะเลของจีนจะตรวจสอบเรือทุกลำในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นไปตรวจสอบบนเรือ โดยไต้หวันได้แจ้งผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าว่า ถ้าได้รับการร้องขอดังกล่าวจากจีน ให้ปฏิเสธและขอความช่วยเหลือจากหน่วยยามฝั่งไต้หวันทันที
ชิวสำทับว่า ไต้หวันจะตอบโต้หากเรือตรวจการณ์จีนข้ามเส้นแบ่งครึ่งในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งถือเป็นพรมแดนอย่างไม่เป็นทางการระหว่างสองฝ่าย
กระนั้น เขาระบุว่า เรือไห่ซิว์น 06 ที่จีนใช้ตรวจสอบเรือในช่องแคบไต้หวัน อยู่ในน่านน้ำใกล้ชายฝั่งไต้หวันในขณะนี้ แต่ยังไม่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนขึ้นไปตรวจสอบบนเรือไต้หวันแต่อย่างใด
(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)