เอะอะทำไม! รัสเซียจวกตะวันตกโวยวายเกิดเหตุ กรณีจับกุมผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ ตามข้อกล่าวหาจารกรรม

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในวันอาทิตย์ (2 เม.ย.) ประณามตะวันตก โวยวายเกินเหตุต่อการจับกุม อีแวน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าวชาวสหรัฐฯ ตามข้อกล่าวหาจารกรรม ปฏิเสธเสียงเรียกร้องล่าสุดของวอชิงตันที่ขอให้ปล่อยตัวเขา และระบุชะตากรรมของชายรายนี้จะถูกตัดสินในศาล

ระหว่างได้รับสายโทรศัพท์ที่ไม่ค่อยพบเห็นนัก จาก แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทาง เซียร์เก ลาฟรอฟ บอกว่า เกิร์ชโควิช กำลังพยายามรับข้อมูลลับตอนที่ถูกจับกุมเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ "ภายใต้การใช้สถานะผู้สื่อข่าวของเขาอำพรางตัว เขากำลังรวบรวมข้อมูลลับที่เป็นความลับของชาติ" กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เผยคำพูดของลาฟรอฟ ที่บอกกับบลิงเคน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้บอกว่า บลิงเคน ได้ถ่ายทอดความกังวลใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีต่อการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ของรัสเซีย ต่อกรณีจับกุมผู้สื่อข่าวที่เป็นพลเมืองอเมริกา "ท่านรัฐมนตรีเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวเขาในทันที" โฆษกเวแดนซ์ ปาเดล ระบุในถ้อยแถลง

เกิร์ชโควิช ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เชื่อว่าเป็นสื่อมวลชนต่างชาติรายแรกที่ถูกจับกุมฐานจารกรรมในรัสเซีย ในยุคหลังสหภาพโซเวียต และการจับกุมตัวเขาก่อความคาดหมายว่ามันจะทำให้สถานการณ์การเชผิญหน้าตะหว่างเครมลินกับตะวันตกลุกลามบานปลาย ท่ามกลางสงครามของมอสโกในยูเครน

"ศาลจะเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมของเขา" ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียอ้างคำกล่าวของลาฟรอฟ พร้อมระบุว่าระหว่างการสนทนาระหว่างลาฟรอฟ กับบลิงเคน "รัสเซียเน้นย้ำว่าพวกเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันและสื่อมวลชนตะวันตกควรอดทนอดกลั้นจากการโหมพระพือเรื่องราวเลยเถิด ด้วยเจตนาทำให้คดีนี้เป็นประเด็นทางการเมือง"

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (31 มี.ค.) เรียกร้องปล่อยตัว เกิร์ชโควิช แต่ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของบอร์ดบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ขอให้ขับไล่พวกผู้สื่อข่าวรัสเซียออกนอกอเมริกา

เกิร์ชโควิช วัย 31 ปี ซึ่งเคยทำงานให้มอสโกไทม์ส และเอเอฟพี ถูกจับกุมในเยคาเตรินเบิร์ก ห่างจากกรุงมอสโก ไปทางตะวันออกราว 1,800 กิโลเมตร ตามรายงานของสื่อมวลชนรัสเซีย เกิร์ชโควิช ปฏิเสธข้อกล่าวหาระหว่างการพิจารณาคดีของศาลในมอสโก เมื่อวันพฤหัสบดี (30 มี.ค.) และเขาจะอยู่ภายใต้การควบคุมระหว่างการพิจารณาคดีไปจนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม

ทาสนิวส์ รายงานว่าคดีนี้ถูกจัดเป็นคดีลับ ซึ่งจำกัดข้อมูลที่สามารถเผยแพร่ต่อสาธารณะ

การจับกุมครั้งนี้เรียกเสียงโวยวายจากตะวันตก และถูกมองว่าเป็นสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายร้ายแรง ในความเคลื่อนไหวปราบปรามสื่อมวลชนของรัสเซีย

ทำเนียบขาวประณามว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น "น่าหัวเราะ" พร้อมเตือนชาวอเมริกาที่ปัจจุบันยังอยู่ให้รัสเซีย ให้เดินทางออกมา เพื่อความปลอดภัยของตนเอง "การเล็งเป้าเล่นงานพลเมืองอเมริกาโดยรัฐบาลรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ เราประณามการจับกุมมิสเตอร์เกิร์ชโควิช ในถ้อยคำที่รุนแรงที่สุด" คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง

เวลานี้มีพลเมืองสหรัฐฯ คนอื่นๆ หลายคนที่อยู่ในเรือนจำรัสเซีย ในนั้นรวมถึง พอล วีแลน อดีตนาวิกโยธิน ซึ่งถูกจับกุมในปี 2018 และถูกพิพากษาจำคุก 16 ปี ตามข้อกล่าวหาจารกรรม ที่เขาปฏิเสธ

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่การจับกุม เกิร์ชโควิช อาจเป็นความพยายามล่าสุดของมอสโก ในเป้าหมายแลกเปลี่ยนนักโทษ "นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่สำหรับปูติน และสำหรับเจ้าหน้าที่รัสเซีย การควบคุมชาวต่างชาติและโดยเฉพาะชาวอเมริกา ไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่" จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติระบุ

ในขวบปีที่ผ่านมา ได้มีการแลกเปลี่ยนนักโทษระดับสูงระหว่างมอสโกกับวอชิงตันหลายครั้ง ในนั้นรวมถึงเมื่อเดือนธันวาคม ที่มอสโก ปล่อยตัว บริตนีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเกตบอลหญิงคนดังชาวอเมริกัน ซึ่งถูกรวบตัวฐานทำกัญชาเข้าประเทศ แลกกับ วิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย

(ที่มา : เอเอฟพี)