ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกว่าปฏิบัติการของยูเครนในการโจมตีตอบโต้กลับรัสเซียไม่สามารถเปิดฉากขึ้นได้ จนกว่าพันธมิตรตะวันตกจะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติม
ผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์โยมิอูริ ชิมบุน ของญี่ปุ่น ว่า เขาจะไม่ส่งทหารไปแนวหน้า หากปราศจากรถถัง ปืนใหญ่ และเครื่องยิงจรวดไฮมาร์ส พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์ทางภาคตะวันออกของยูเครน ไม่สู้ดีนัก "เรากำลังรอการมาถึงของกระสุนจากพันธมิตรของเรา" เขากล่าว
เมื่อถูกถามถึงความคาดหมายเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ เขาตอบว่า "เราไม่สามารถเริ่มขึ้นได้ เราไม่อาจส่งกำลังพลผู้กล้าของเราไปยังแนวหน้าหากปราศจากรถถัง ปืนใหญ่และจรวดพิสัยไกล" เขากล่าวและระบุว่า "หากคุณมีความตั้งใจทางการเมือง คุณก็จะสามารถหาหนทางหนึ่งหนทางใดในการช่วยเรา เราอยู่ระหว่างสงครามและไม่สามารถรอได้"
มีการพูดกันมานานหลายสัปดาห์แล้วว่า ยูเครนกำลังเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กองกำลังรัสเซียในฤดูใบไม้ผลิ ในขณะที่บรรดาผู้บัญชาการทหารของยูเครน ก็แย้มว่ามันอาจใกล้เกิดขึ้นแล้ว เช่นเดียวกับ โอเลคซานด์ร ซีร์สกี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นของยูเครน เพิ่งบอกในช่วงกลางสัปดาห์ ว่ามันอาจเกิดขึ้น "เร็วๆ นี้"
พวกนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ากองทัพยูเครนกำลังพูดถึงแนวคิดในการใช้ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้สร้างความสับสนแก่กองกำลังรัสเซีย กองทัพยูเครนต้องการเห็นบรรดาผู้บัญชาการทหารของรัสเซียกระจายกองกำลังแยกย่อยประปรายตามแนวหน้า เพื่อรับมือกับการโจมตีใดๆ แทนที่จะระดมกำลังไว้ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ในเมืองบัคมุต ทางภาคตะวันออกของยูเครน
ส่วนนักวิเคราะห์คนอื่นๆ เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ปฏิบัติการโจมีตอบโต้จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยสถาบันศึกษาสงคราม ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ปฏิบัติการรุกคืบของรัสเซียกำลังสูญเสียแรงขับและสิ้นสุดลงไปแล้ว "เพราะฉะนั้น ยูเครนจึงอยู่ในสถานะที่ดีในการกลับมาเริ่มปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในพื้นที่สำคัญของแนวหน้าในปัจจุบัน"
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเซเลนสกี มองโลกในแง่ร้ายมากกว่า บ่อยครั้งเขาเตือนว่าสงครามอาจลากยาวไปนานหลายปี จนกว่าพันธมิตรตะวันตกจะยกระดับการส่งมอบอาวุธ แต่หนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขายอมรับอย่างแท้จริงว่า ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครนอาจต้องล่าช้า สืบเนื่องจากขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์จากตะวันตก
ความเห็นของ เซเลนสกี ไม่ได้สะท้อนเพียงว่าเขาปรารถนาปลุกเร้าให้ตะวันตกเร่งรัดส่งมอบอาวุธเพิ่มเติม แต่มันแสดงให้เห็นว่าเขากำลังรู้สึกผิดหวังต่อความเฉื่อยชาของตะวันตกเช่นกัน
พันธมิตรของยูเครนให้สัญญามอบรถถัง ปืนใหญ่ และระบบขีปนาวุธพิสัยไกลขึ้นเพิ่มเติมแก่ยูเครน แต่บางประเทศประสบปัญหาในการทำตามที่รับปากไว้ ขณะที่บางชาติต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดในการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านั้นไปยูเครน
บรรดาเจ้าหน้าที่ตะวันตกบอกว่าแรงสนับสนุนทางทหารกำลังเดินทางไปถึง แต่ยอมรับการฝึกฝนและแผนการต่างๆ ต้องใช้เวลา นอกจากนี้พวกเขายังอ้างปัจจัยอื่นๆ เช่น ภูมิประเทศที่เป็นโคลนทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเริ่มกลยุทธ์ทางทหารใดๆ และฝ่าทะลวงตามแนวหน้า
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดข่าวลือกันไปต่างๆ เกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ไหนและเมื่อไหร่ จนทางกระทรวงกลาโหมต้องออกมาร้องขอให้ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหยุดพูดคุยเกี่ยวกับแผนดังกล่าว
ฮันนวา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน อ้างบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีเพียง 3 คนที่มีสิทธิเปิดเผยแผนการทางทหารต่อสาธารณะ นั่นคือ ประธานาธิบดี รัฐมนตรีกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด
(ที่มา : บีบีซี)
