ตำรวจในเมืองหลักๆ ของสหรัฐฯ กำลังเตรียมพร้อมสำหรับรับมือความเป็นไปได้ที่จะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ ในกรณีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจถูกจับกุมในสัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งในการไต่สวนคดีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊สาวไม่ให้แฉความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ซึ่งอาจเข้าข่ายการใช้จ่ายเงินในการรณรงค์หาเสียงที่ผิดกฎหมายในศึกเลือกตั้งปี 2016
บรรดาเจ้าหน้าที่ในนิวยอร์ก กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และลอสแองเจลิส ต่างยกระดับประจำการเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย เพื่อรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบใดๆ ที่อาจปะทุขึ้น หลังจาก ทรัมป์ ปลุกระดมให้เหล่าผู้สนับสนุนลงถนนทำการประท้วง ท่ามกลางความคาดหมายว่าตนเองจะถูกจับกุมตามข้อกล่าวหาข้างต้นในสัปดาห์นี้
สื่อมวลชนรายงานว่า อัยการรายหนึ่งในแมนฮัตตัน อาจตั้งข้อหา ทรัมป์ ต่อวิธีการที่เขาจ่ายเงินปิดปาก สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหนังสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นในวันท้ายๆ ของศึกรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 2016 แลกกับการที่ฝ่ายหญิงเก็บเงียบความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างเธอกับทรัมป์ เมื่อ 1 ทศวรรษก่อนหน้านั้น ที่อาจกระทบต่อการช่วงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
หากมีการประกาศคำฟ้องจริง ทรัมป์จะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกตั้งข้อหาอาชญากรรม ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อการลงชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวในปี 2024
เมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค.) แนวรั้วเหล็กถูกจัดตั้งขึ้นบริเวณด้านนอกสำนักงานอัยการ และศาลอาญาแมนฮัตตัน บริเวณที่ ทรัมป์ จะถูกตั้งข้อหา พิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายภาพ หากว่ามีแจ้งข้อหาในสัปดาห์นี้ ตามความคาดหมายของสื่อมวลชนสหรัฐฯ
นอกจากบริเวณดังกล่าวแล้ว ตำรวจยังได้เสริมกำลังพล และจัดตั้งแนวกั้นบริเวณด้านนอกของอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในแมนฮัตตัน เช่นกัน
เจ้าหน้าที่ทุกนายจากกรมตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ในนั้นรวมถึงสายสืบนอกเครื่องแบบ ถูกสั่งให้สวมเครื่องแบบเต็มขั้นในวันอังคาร (21 มี.ค.) และอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับเคลื่อนพลในทันที
อย่างไรก็ตาม จนถึงเช้าวันอังคาร (21 มี.ค.) มีเพียงตากล้องสถานีโทรทัศน์และผู้สื่อข่าวไม่กี่สิบคนที่ปักหลักอยู่ตามทางเท้าของเมือง บริเวณใกล้เคียงกับอาคารศาล ขณะเดียวกัน พบเห็นผู้ประท้วงจำนวนไม่มากนักที่รวมตัวส่งเสียงแสดงความคิดเห็นต่อความเป็นไปได้ของการออกคำฟ้องของคณะลูกขุนใหญ่ในครั้งนี้
กรมตำรวจนิวยอร์ก และกองกำลังเฉพาะกิจต่อต้านก่อการร้ายของเอฟบีไอ ติดต่อประสานงานกับหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องประธานาธิบดี และเหล่าอดีตประธานาธิบดี เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแนวทางการเข้าจับกุม
ทั้งนี้ คาดหมายว่าหน่วยสืบราชการลับที่ให้การคุ้มครองทรัมป์ จะอยู่ข้างๆ เขาในกรณีที่มีการจับกุม ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนสหรัฐฯ รายงานว่าจะไม่มีการ perp walk หรือวิธีปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายในการพาผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับเดินผ่านที่สาธารณะ เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพและวิดีโอ
ตำรวจรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องบรรดา ส.ส. และวุฒิสมาชิกในอาคารรัฐสภา ในวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ติดตั้งแนวรั้วรอบๆ อาคารรัฐสภา และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ แหล่งข่าวสภาคองเกรสรายหนึ่งเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ว่า ตำรวจรัฐสภามีแผนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันอังคาร (21 มี.ค.) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ
ในลอสแองเจลิส กรมตำรวจแอลเอ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางกำลังเตรียมการรับมือกับการประท้วงของฝ่ายโปรทรัมป์ รอบนอกอาคารของรัฐบาลกลาง ในขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ตรวจพบคำขู่ทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น หมายหัวไปที่เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายและเจ้าหน้าที่รัฐบาล นับตั้งแต่ ทรัมป์ เขียนบนออนไลน์เมื่อวันเสาร์ (18 มี.ค.) คาดหมายว่าตนเองจะถูกจับกุมในวันอังคาร (21 มี.ค.)
คำขู่ส่วนใหญ่เล็งเป้าไปที่ อัลวิน แบร็กก์ อัยการเขตแมนฮัตตัน ซึ่งคาดหมายว่าจะเป็นผู้ยื่นดำเนินคดีต่อทรัมป์
เมื่อวันเสาร์ (18 มี.ค.) ในวันเดียวกับที่ ทรัมป์ เรียกร้องผู้สนับสนุนให้ลงถนนประท้วง ทาง แบร็กก์ ได้ส่งหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการ "เราจะไม่อดทนต่อความพยายามข่มขู่เจ้าหน้าที่ของเขาและคุกคามหลักนิติรัฐในนิวยอร์ก"
แก่นกลางของคดีนี้คือ กรณี ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความส่วนตัวของทรัมป์ จ่ายเงินเป็นจำนวน 130,000 ดอลลาร์ เป็นค่าปิดปากแก่ สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหนังสำหรับผู้ใหญ่ ไมกี่สัปดาห์ก่อนถึงศึกเลือกตั้งปี 2016 เพื่อให้เธอเก็บเงียบเป็นความลับในเรื่องราวความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างเธอกับทรัมป์ หลายปีก่อนหน้านั้น
ในเบื้องต้น เมื่อปี 2018 ทรัมป์ ปฏิเสธว่าเขาไม่เคยรับรู้อะไรเกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปากเลย อย่างไรก็ตาม ต่อมา เขายอมรับว่าได้จ่ายเงินคืนแก่ โคเฮน ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นเพียงแค่การทำธุรกรรมส่วนตัวเฉยๆ
สำนักงานอัยการเขตแมนฮัตตัน กำลังประเมินเกี่ยวกับแนวทางที่ทรัมป์คืนเงินให้แก่โคเฮน โดยประวัติการชำระเงินระบุว่ามันเป็น "ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย" แต่ทางอัยการอาจโต้แย้งว่ามันอาจเท่ากับว่า ทรัมป์ ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับบันทึกทางธุรกิจ
แม้มันเป็นความผิดอาญาประเภทลหุโทษในนิวยอร์ก ซึ่งปกติแล้วจะถูกลงทัณฑ์ด้วยการปรับเงิน แต่พวกนักวิเคราะห์ทางกฎหมายบอกว่ามันอาจถูกยกระดับเป็นความผิดทางอาญาที่มีความร้ายแรงกว่า ซึ่งมีโทษถึงขั้นจำคุก หากอัยการโต้แย้งว่ามีการโกหก เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดฐานละเมิดกฎหมายหาเสียงเลือกตั้ง
อดีตประธานาธิบดีรายนี้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และบอกว่าเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับแดเนียลส์
(ที่มา : บีบีซี)