ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยึดตามแผนเดิม ในความเคลื่อนไหวปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) ในขณะที่พวกเขายังมุ่งเน้นให้ความสำคัญไปที่การต่อสู้กับเงินเฟ้อสูงลิ่ว แม้ตลาดทุนตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนจากความกังวลว่าวิกฤตภาคธนาคารอาจลุกลามขยายวงกว้างยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของอีซีบี นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน และพวกเขาบอกว่ายังมีสิ่งต่างๆ มากมายต้องทำ แม้ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ของการหันหน้าสู่ทิศทางแห่งการอะลุ่มอล่วย ละทิ้งภาษาที่เคยระบุถึงความจำเป็นที่ต้องเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปแกว่งไปแกว่งมาในช่วงแรก โดยวอลล์สตรีทเปิดตลาดในแดนลบ แต่จากนั้นก็ฟื้นตัวขึ้นมา ในขณะที่นักลงทุนพินิจพิเคราะห์ถ้อยแถลงของอีซีบี ทั้งนี้ ต่อมาวอลล์สตรีทปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง หลังกลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ แถลงแพกเกจช่วยเหลือ 30,000 ล้านดอลลาร์ ที่มอบแก่รีพับลิก แบงก์ ที่กำลังประสบปัญหา
บรรดาผู้กำหนดนโยบายของอีซีบี เผชิญเสียงเรียกร้องให้ชะลอมาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของพวกเขา ตามหลังการล่มสลายของธนาคารซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ และซิกเนเจอร์ แบงก์ ในสหรัฐฯ ซึ่งถือป็นการล้มครืนครั้งใหญ่ที่สุดของภาคธนาคารอเมริกา นับตั้งแต่วิกฤตการเงิน 2008
มีความกังวลว่าวิกฤตจะแผ่ลามมายังยุโรป และด้วยความตื่นตระหนักในตลาดทุน บีบให้เครดิต สวิส ธนาคารใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ต้องเข้ารับสายเลี้ยงชีพทางการเงินจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากราคาหุ้นดำดิ่งในวันพุธ (15 มี.ค.) ธนาคารเครดิต สวิส ซึ่งเผชิญเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ต้องหาทางฝ่าวิกฤตล่าสุดด้วยการแถลงว่าจะกู้เงินสูงสุด 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารกลางของประเทศ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หุ้นของธนาคารฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 30% ในช่วงเปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) และตลาดหุ้นยุโรปก็ดีดตัวขึ้นเช่นกัน
อีซีบี เป็นธนาคารกลางหลักแห่งแรกที่มีการประชุม นับตั้งแต่ความยุ่งเหยิงในภาคธนาคารเริ่มต้นขึ้น โดยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษมีกำหนดประชุมในสัปดาห์หน้า
"เรามีความมุ่งมั่นต่อสู้กับเงินเฟ้อ" คริสติน ลาการ์ด ประธานอีบีซีกล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม โดยการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.0%
อีซีบีเน้นว่าธนาคารต่างๆ ของยูโรโซนมีความยืดหยุ่นด้วยสถานะเงินทุนและสภาพคล่องที่เข้มแข็ง และทาง ลาการ์ด ยืนยันว่าทางอีซีบีพร้อมดำเนินการทันทีหากมีความจำเป็น "เรากำลังจับตาความตึงเครียดในปัจจุบันในตลาดอย่างใกล้ชิด และยืนหยัดพร้อมตอบสนองตามความจำเป็นเพื่อรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพทางราคาและเถียรภาพทางการเงินในพื้นที่ยูโร" เธอกล่าว
แม้มีเสียงเรียกร้องให้ชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยท่ามกลางความยุ่งเหยิงในภาคธนาคาร แต่ ลาการ์ด ยืนยันว่าไม่มีการเลือกอย่างหนึ่งอย่างใดระหว่างราคาและเสถียรภาพทางการเงิน
คาร์สเทน บราเซสกี นักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็นจี อีโคโนมิสต์ ระบุ ชัดเจนอีบีซีให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางราคาเหนือความกังวลใดๆ ที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงิน อย่างน้อยๆ ก็ในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม เขาคาดการณ์ว่า อีบีซีอาจเลี้ยวเข้าสู่แนวทางอะลุ่มอล่วยกว่าเดิมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า "บางทีมันอาจแย้มถึงการชะลออัตราและขนาดของการปรับขึ้นดอกเบี้ยใดๆ ในอนาคต"
ธนาคารกลางยุโรปปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจของยูโรโซน เป็นขยายตัว 1.0% ในปีนี้ ปัจจัยบางส่วนสืบเนื่องจากราคาพลังงานลดลง ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวเพียง 0.50% ในปี 2023
นอกจากนี้ อีซีบียังปรับลดประมาณการตัวเลขเงินเฟ้อลงในปีนี้เหลือ 5.3% จากระดับ 6.3% ที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้
เวลานี้ทุกสายตาจะจับต้องไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางข้อถกเถียงที่มีมากขึ้นว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังการพังครืนของซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (เอสวีบี) มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางกับต้นทุนการกู้ยืม (การปรับขึ้นดอกเบี้ย) ที่เพิ่มอย่างมากตลอดปีที่ผ่านมา
เอสวีบี พังครืนลงหลังขาดทุน 1,800 ล้านดอลลาร์ จากการขายหลักทรัพย์ลงทุน ในนั้นรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมูลค่าดำดิ่ง สืบเนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ในขณะที่เครดิต สวิส ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด ซ้ำเติมจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ที่เล่นงานธนาคารแห่งนี้ในช่วงไม่นานที่ผ่านมา ปัญหาต่างๆ ไล่ตั้งแต่การพังครืนของกรีนซิลล์ บริษัทการเงินสหราชอาณาจักร ที่ก่อผลกระทบต่อแผนกบริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารเครดิต สวิส และการขาดทุนมหาศาลจากการผิดนัดชำระหนี้และปิดตัวลงของเฮดจ์ฟันด์ Archegos ในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบทางการเงินแก่เครดิต สวิสมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปลายปีที่ผ่านมา ลูกค้าเครดิต สวิสแห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวของธนาคารในการทำผิดกฎระเบียบ และความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี
เครดิต สวิส เปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนสุทธิ 1,400 ล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1,320 ล้านฟรังก์สวิส ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 7,300 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อีซีบีปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่รวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อสยบราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูง ท่ามกลางราคาพลังงานและอาคารที่ดีดตัวขึ้น ตามหลังการทำสงครามในยูเครนของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานเริ่มลดลงแล้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และช่วยฉุดเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 8.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่กระนั้นเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารที่มีความผันผวน ยังคงอยู่ในระดับสูง
(ที่มา : เอเอฟพี)