xs
xsm
sm
md
lg

เอาอยู่ไหม! เครดิตสวิสเล็งกู้ ธ.กลาง $5.4 หมื่นล้านเสริมสภาพคล่อง ท่ามกลางคำเตือนถ้าล้มสะเทือนทั้งโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารเครดิตสวิส ในวันพฤหัสบดี (18 มี.ค.) แสดงถึงความตั้งใจกู้ยืมเงินจากธนาคารแห่งชาติสวิส (SNB) สูงสุด 50,000 ล้านฟรังก์สวิส (54,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งจะเป็น "มาตรการเด็ดขาด" เพื่อเสริมสภาพคล่อง

แผนความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีออกมาตามหลังคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสวิตเซอร์แลนด์สัญญาว่าจะมอบสภาพคล่องหล่อเลี้ยงเครดิตสวิส ในความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของธนาคารกลางหนึ่ง หลังจากหุ้นของเครดิต สวิส สถาบันการเงินใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ร่วงลงสูงสุดถึง 30% ในวันพุธ (15 มี.ค.)

"เครดิต สวิสกำลังใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการเสริมความเข้มแข็งล่วงหน้าแก่สภาพคล่อง ด้วยความตั้งใจใช้ทางเลือกของการกู้ยืมเงินจากธนาคารแห่งชาติสวิส สูงสุด 50,000 ล้านฟรังก์สวิส ภายใต้โครงการจัดหาเงินกู้แบบครอบคลุมและการจัดหาสภาพคล่องในระยะสั้น (Covered loan facility and a short-term liquidity facility) ซึ่งค้ำประกันเต็มจำนวนโดยสินทรัพย์คุณภาพสูง" ถ้อยแถลงของเครดิต สวิสระบุ

สถาบันการเงินแห่งนี้อ้างถึงอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1 ratio) ที่ 14.1% และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio : LCR) ที่ 114% ในช่วงสิ้นปี 2022 ซึ่งอย่างหลังได้ปรับขึ้นสู่ระดับราว 150% เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา

ในการกล่าวพาดพิงถึงความตั้งใจกู้ยืม ถ้อยแถลงระบุว่า "สภาพคล่องเพิ่มเติมจะช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักของเครดิต สวิสและพวกลูกค้า ในขณะที่เครดิต สวิสจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างความสะดวกและมุ่งเน้นความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปยังความต้องการของลูกค้า"

การพังครืนของธนาคารซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (เอสวีบี) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ ในอีก 2 วันต่อมา ผลักตลาดหุ้นทั่วโลกหกคะเมนตีลังการาวกับนั่งรถไฟเหาะ

แกรี อึ้ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของนาติซิส คอร์ปอเรต และอินเวสต์เมนท์แบงก์ กล่าวว่านักลงทุนอาจรู้สึกกังวลกับซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ และเครดิต สวิส ในเหตุผลที่ต่างกัน แต่ทั้ง 2 ธนาคารต่างเจอผลข้างเคียงของอัตราดอกเบี้ยระดับสูง "

บรรดานักวิเคราะห์เตือนว่าเริ่มมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความอยู่รอดของธนาคาร และผลกระทบต่อภาคธนาคารในวงกว้าง ในขณะที่หุ้นของสถาบันการเงินอื่นๆ กลับมาดิ่งลงหนักอีกครั้งในวันพุธ (15 มี.ค.) หลังจากฟื้นตัวหนึ่งวันก่อนหน้านี้ "เมื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งทิ้งไป คนอื่นๆ อาจทำตาม เวลานี้เครดิต สวิสจำเป็นต้องมาพร้อมกับแผนที่เป็นรูปธรรมสำหรับหยุดกระแสเงินไหลออก และทำมันอย่างรวดเร็ว" คริส เบาแคมป์ นักวิเคราะห์จากไอจี บอกกับเอเอฟพี

ส่วน นีล วิลสัน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดของบริษัทเทรดดิ้ง ฟินัลโต เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว โดยบอกกับเอเอฟพีว่า "ถ้าเครดิต สวิสวิ่งเข้าสู่ปัญหาการอยู่รอดร้ายแรง เราทั้งหมดที่อยู่ในโลกอื่นๆ จะรับรู้ถึงความเจ็บปวด มันใหญ่เกินไปที่จะล้ม"

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของธนาคารเครดิต สวิส มีขึ้นแม้ว่าทาง อุลริช คอร์เนอร์ ซีอีโอของทางธนาคาร ให้สัมภาษณ์ในวันพุธ (15 มี.ค.) ว่า "พื้นฐานเงินทุนของธนาคารและสภาพคล่องของเราแข็งแกร่งมากๆ เครดิต สวิสทำได้ตามและเกินกว่าข้อบังคับด้านกฎระเบียบพื้นฐานทั้งหมด"

เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารเครดิต สวิส รายงานผลประกอบการขาดทุนรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 หลังบรรดาลูกค้าที่หวาดผวาพากันถอนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกจากธนาคาร นอกจากนี้ พวกเขายังเตือนว่าถึงความเป็นไปได้ของภาวะขาดทุนเพิ่มเติมอีกจำนวนมากในปีนี้

สถาบันการเงินใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ ได้เริ่มต้นปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ไปแล้ว พยายามลดค่าใช้จ่ายและปรับลดพนักงานเพื่อกอบกู้สถานะทางการเงิน ในนั้นรวมถึงก่อตั้งธุรกิจแยกสำหรับธนาคารเพื่อการลงทุนภายใต้แบรนด์ซีเอส เฟิร์ส บอสตัน โดยธนาคารแห่งนี้ได้ระดมทุนจากนักลงทุน 4,000 ล้านฟรังก์สวิสในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เมื่อวันพุธ (15 มี.ค.) ธนาคารเครดิต สวิส ยังได้เสนอหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ สำหรับเงินสดสูงสุด 3,000 ล้านฟรังก์

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งนี้ยังเผยด้วยว่าได้เร่งลดค่าใช้จ่ายต่างๆ และอยู่บนเส้นทางของการลดต้นทุนให้ได้ 2,500 ล้านฟรังก์สวิส ภายในปี 2025 ในนั้นรวมถึง 1,200 ล้านฟรังก์สวิสในปี 2023

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 หุ้นของเครดิต สวิส มีมูลค่า 12.78 ฟรังก์สวิส แต่หลังจากนั้นธนาคารแห่งนี้ได้เผชิญกับปัญหาต่างๆมากมาย ที่ทำให้มูลค่าตลาดของธนาคารลดลงมาเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงการที่เครดิต สวิส ได้รับผลกระทบขาดทุนมหาศาลจากการผิดนัดชำระหนี้และปิดตัวลงของเฮดจ์ฟันด์ Archegos ในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบทางการเงินแก่เครดิต สวิสมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ แผนกบริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารเครดิต สวิส ยังได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ “กรีนซิล” บริษัทการเงินของสหราชอาณาจักร

ปลายปีที่ผ่านมา ลูกค้าเครดิต สวิสแห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวของธนาคารในการทำผิดกฎระเบียบ และความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี

เครดิต สวิสเปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนสุทธิ 1,400 ล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1,320 ล้านฟรังก์สวิส ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 7,300 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น