ตุรกียังมีปาฏิหาริย์ เด็กสาววัยรุ่นผู้หนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกดึงออกจากกองปรักหักพังในตุรกี เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) หรือ 10 วันหลังจากแผ่นดินไหว ภายหลังในวันพุธ (15) พบผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคาร 5 คน กระนั้น ความพยายามของการปฏิบัติการกู้ภัยเวลานี้ ก็ปรับเปลี่ยนให้มาเน้นการบรรเทาทุกข์ผู้รอดชีวิต
เด็กสาววัย 17 ปีผู้นี้ถูกนำตัวออกจากกองหักพังของกลุ่มอาคารอพาร์ตเมนต์ที่ถล่มลงมาในจังหวัดคาห์รามานมารัส ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีเมื่อวันพฤหัสฯ ตามรายงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ทีอาร์ที ฮาเบอร์ หรือ 248 ชั่วโมงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวมรณะขนาดความรุนแรง 7.8 ในคืนวันที่ 6 ก.พ.
คลิปวิดีโอที่มีผู้นำออกเผยแพร่ แสดงให้เห็นว่าเธอถูกวางบนเปลนำขึ้นรถพยาบาล โดยที่ทั้งตัวถูกห่อคลุมด้วยผ้าห่มสีทองที่เป็นผ้าห่มให้ปรับเพิ่มความร้อน
ก่อนหน้านั้น 1 วันในเมืองเดียวกันนี้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ จุดศูนย์กลางเหนือแผ่นดินไหวคราวนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับเสียงปรบมือดังลั่นและสวมกอดกันขณะที่รถพยาบาลเข้าไปรับหญิงวัย 74 ปี ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากใต้ซากปรักหักพัง โดยก่อนหน้านั้นไปอีกแต่ยังเป็นวันพุธ ก็ได้ช่วยหญิงวัย 46 ปีผู้หนึ่งออกมาแล้ว
ส่วนที่จังหวัดอันทัลยา สำนักข่าวอนาโดลูของทางการตุรกีรายงานว่า หญิงชื่อ เอลา และลูกชื่อ เมย์แซม กับ อาลี ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากใต้ซากอาคารอพาร์ตเมนต์เมื่อวันพุธเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวคราวนี้อยู่ที่อย่างน้อย 36,187 คนสำหรับในตุรกี ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในซีเรียที่อยู่ติดกันให้ตัวเลขผู้ตายที่นั่นไว้ที่ 5,800 คน โดยเป็นตัวเลขที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยมาหลายวันแล้ว
ถึงแม้ในตุรกียังมีการค้นพบผู้ที่มีชีวิตอยู่ แต่จำนวนก็ได้ลดฮวบลงไปมาก โดยที่ตุรกีและซีเรียต่างไม่มีการประกาศตัวเลขว่ายังมีผู้สูญหายเป็นจำนวนเท่าใด
สำหรับครอบครัวต่างๆ ที่ยังคงเฝ้ารอคอยจะได้เห็นญาติพี่น้องที่สูญหายได้รับการช่วยเหลือออกมา ต่างกำลังมีอารมณ์โกรธแค้นกันมากขึ้นต่อสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นการก่อสร้างและการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยความบกพร่องและการทุจริตฉ้อฉล ซึ่งส่งผลให้อาคารพักอาศัยและอาคารธุรกิจเป็นพันๆ หมื่นๆ หลังพังครืนลงมาเมื่อเจอธรณีพิโรธ
ทางการตุรกีให้สัญญาที่จะสอบสวนใครก็ตามที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้รับผิดชอบทำให้อาคารต่างๆ ทนทานแผ่นดินไหวไม่ได้ รวมทั้งมีการออกคำสั่งให้คุมขังผู้ต้องสงสัยมากกว่า 100 คน ในจำนวนนี้ก็รวมไปถึงพวกนักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ด้วย
เวลาเดียวกัน ความสนใจในการกู้ภัยบรรเทาทุกข์ขณะนี้ กำลังหันไปเน้นการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขาภิบาลได้รับความเสียหายหรือใช้การไม่ได้จากแผ่นดินไหว และหน่วยงานด้านสาธารณสุขเผชิญงานหนักในการพยายามทำให้ประชาชนปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ
ขณะเดียวกัน เรื่องราวในการเอาชีวิตรอดระหว่างถูกฝังใต้ซากปรักหักพังนานหลายวันเริ่มได้รับการเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ
ดังกรณีของฮูเซอิน เบอร์เบอร์ ผู้ป่วยเบาหวานวัย 62 ปี ที่ติดอยู่ใต้ซากตึกนาน 187 ชั่วโมงภายในห้องชั้นล่างที่มีตู้เย็นและตู้ มีอาร์มแชร์ให้นั่งและพรมที่ช่วยให้อบอุ่น เขาเล่าว่า ต้องดื่มปัสสาวะตัวเองหลังจากน้ำดื่มที่มีอยู่เพียงขวดเดียวหมด
เขายังบอกอีกว่า ตะโกนจนเจ็บคอแต่ไม่มีใครได้ยิน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปพบและดึงเขาออกจากช่องที่เล็กมาก
บาตีร์ เบอร์ดิกลีเชฟ ผู้แทนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในตุรกีเตือนว่า การขาดแคลนน้ำในพื้นที่ประสบภัยเพิ่มความเสี่ยงโรคที่มากับน้ำและการเกิดโรคติดต่อระบาด
เวลาเดียวกัน รัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนกลับไปพักอาศัยที่บ้าน หากเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าปลอดภัยแล้ว
มูรัต คูรัม รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเมืองของตุรกี รับปากว่า จะเร่งรื้อถอนซากอาคารที่จำเป็นต้องรื้อถอนและสร้างอาคารที่พักอาศัยที่ปลอดภัย
ส่วนที่ซีเรีย ความพยายามในการบรรเทาทุกข์ถูกขัดขวางจากสงครามกลางเมืองที่ทำให้ประเทศนี้แตกเป็นเสี่ยงๆ มาสิบกว่าปีแล้ว รวมทั้งยังทำให้มหาอำนาจในภูมิภาคและระดับโลกแตกเป็นสองฝ่าย
ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการฉุกเฉินของ WHO แถลงเมื่อวันพุธว่า มีความกังวลอย่างมากกับสวัสดิภาพของประชาชนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียซึ่งอยู่ในการยึดครองของกลุ่มกบฏ และความช่วยเหลือเข้าถึงน้อยมาก โดย WHO ได้ขอให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เปิดจุดผ่านแดนติดต่อกับตุรกีเพิ่มเพื่อลำเลียงความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ดังกล่าว
(ที่มา: รอยเตอร์)