เครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ 2 ลำ ถูกส่งขึ้นท้องฟ้าเข้าสกัดอากาศยานทางทหารของรัสเซีย 4 ลำ ใกล้รัฐอะแลสกา จากการเปิดเผยของศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command - NORAD) ที่ร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ในวันอังคาร (14ก.พ.) ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในเวลาที่ไล่เลี่ยกับที่พบเครื่องบินทหารรัสเซียบินเฉียดใกล้โปแลนด์เช่นกัน
การเข้าสกัดเครื่องบินของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95 และเครื่องบินขับไล่ Su-35 เกิดขึ้นในวันจันทร์ (13 ก.พ.) จากการเปิดเผยของศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ "อากาศยานรัสเซียยังอยู่ในน่านฟ้าสากลและไม่ได้เข้ามาในเขตน่านฟ้าอธิปไตยของอเมริกาหรือแคนาดา" ถ้อยแถลงระบุ พร้อมบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซียเกิดขึ้นเป็นประจำและไม่ได้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม หรือเป็นพฤติกรรมยั่วยุใดๆ
ขณะที่ภารกิจสกัดอากาศยานของรัสเซียเกิดขึ้นแทบเป็นกิจวัตร แต่ในเดือนนี้ เครื่องบินรบของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในอเมริกา ต้องปฏิบัติภารกิจเชิงรุกที่ไม่เห็นบ่อยครั้งนัก นั่นคือยิงร่วงบอลลูนลูกหนึ่ง ซึ่งกล่าวอ้างว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน และวัตถุบินไม่สามารถระบุเอกลักษณ์อีก 3 ลำ
ในเวลาไล่เลี่ยวกันนั้น เครื่องบินรบ F-35 ของเนเธอร์แลนด์ 2 ลำ ถูกส่งเข้าสกัดอากาศยานทางทหาร 3 ลำของรัสเซีย ที่บินโฉบใกล้โปแลนด์ เข้าประกบพวกเขาและพาบินออกไป จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์ที่เผยแพร่ในช่วงค่ำวันจันทร์ (13 ก.พ.)
ถ้อยแถลงที่แปลโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า "ในตอนนั้น เครื่องบินไม่ทราบฝ่ายมุ่งหน้าจากคาลินินกราด สู่โปแลนด์ พื้นที่รับผิดชอบของนาโต้" ทั้งนี้ คาลินินกราด คือ ดินแดนแทรก (Enclave) ของรัสเซีย ที่ตั้งอยู่ระหว่างโปแลนด์กับลิทัวเนีย 2 ชาติสมาชิกของทั้งนาโต้และสหภาพยุโรป
"หลังจากตรวจสอบตัวตน พบว่ามันเป็นอากาศยาน 3 ลำ เครื่องบิน IL-20M Coot-A ของรัสเซียลำหนึ่ง ที่มีเครื่องบิน Su-27 จำนวน 2 ลำบินขนาบข้าง เครื่องบิน F-35 เข้าประกบจากระยะไกลและส่งมอบให้พันธมิตรนาโต้"
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น หลังรอยเตอร์ติดต่อสอบถามความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
ขณะที่กระทรวงกลาโหมโปแลนด์ระบุว่า เครื่องบินเอฟ-35 ของเนเธอร์แลนด์ จำนวน 8 ลำ ได้ประจำการอยู่ในโปแลนด์ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
(เอเอฟพี/รอยเตอร์)