xs
xsm
sm
md
lg

หยวนผงาด! กูรูชื่อก้องทำนายยุคดอลลาร์สหรัฐครองโลกใกล้ถึงจุดจบแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาสตราจารย์นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เขียนบทความเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส เมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.พ.) ระบุว่า สถานะของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลกตกอยู่ในอันตราย และกำลังถึงจุดจบ

รูบินี ผู้คาดการณ์อย่างแม่นยำว่าจะเกิดวิกฤตการเงินในปี 2008 ระบุแม้ยังไม่มีสกุลเงินไหนที่มีศักยภาพก้าวเข้ามาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐโดยสิ้นเชิง แต่สกุลเงินของสหรัฐฯ กำลังสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับสกุลเงินหยวนของจีน

"ด้วยดอลลาร์ถูกใช้เป็นอาวุธเพิ่มมากขึ้น สำหรับจุดประสงค์ความมั่นคงของชาติ และมีความเป็นคู่ปรับทางภูมิศาสตร์หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างตะวันตกกับบรรดาประเทศอำนาจเก่าที่ต้องการฟื้นฟูสถานภาพของตนเอง (revisionist powers) เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ บางคนเชื่อว่าการลดพึ่งพาดอลลาร์จะถูกเร่งให้เร็วขึ้น ในโลกที่มีการแบ่งแยกมากขึ้นเรื่อยๆ เป็น 2 เขตอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ กล่าวคือพวกที่ห้อมล้อมสหรัฐฯ กับจีน มันมีความเป็นไปได้ว่าท้ายที่สุดแล้วระบอบสกุลเงิน 2 ขั้วจะเข้ามาแทนที่ระบอบขั้วเดียว" จากความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ที่ถูกเรียนขานจากวอลล์สตรีทว่า "ด็อกเตอร์ ดูม" จากคำทำนายอันแม่นยำของเขาต่อวิกฤตการเงินปี 2008

มีความเคลือบแคลงสงสัยว่าหยวนอาจไม่สามารถก้าวมาเป็นสกุลเงินสำรองอย่างแท้จริง จนกว่าปักกิ่งจะยกเลิกการควบคุมเงินทุน ยอมรับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดถาวร และอัตราการแลกเปลี่ยนเงินหยวนต้องมีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม รูบินี โต้แย้งว่ามุมมองดังกล่าวไม่ถูกต้องอีกต่อไป เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ดำเนินการเคลื่อนไหวที่บ่อนทำลายแรงจูงใจที่มีต่อสกุลเงินของตนเอง ด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ

"อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่นโดยสมบูรณ์และการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศไม่มีความจำเป็นเพื่อให้ประเทศหนึ่งบรรลุเป้าหมายของสถานะสกุลเงินสำรอง และแม้บางทีจีนอาจควบคุมเงินทุน แต่สหรัฐฯ ก็มีความเคลื่อนไหวต่างๆ ในเวอร์ชันของตนเองที่อาจลดแรงดึงดูดใจต่อสินทรัพย์ดอลลาร์ในหมู่ศัตรู หรือแม้กระทั่งบรรดาประเทศที่ค่อนข้างเป็นมิตรเช่นกัน เหล่านี้รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรทางการเมืองที่เล่นงานคู่อริ ข้อจำกัดต่างๆ ที่กำหนดต่อการลงทุนจากภายนอกประเทศในหลายภาคส่วนและบริษัทต่างๆ ที่มีความอ่อนไหวในด้านความมั่นคงแห่งชาติ และแม้กระทั่งมาตรการคว่ำบาตรทางอ้อมที่เล่นงานเพื่อนฝูง ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรโดยตรง" รูบินี กล่าว

นักเศรษฐศาสตร์รายนี้เน้นต่อว่า จีนกำลังยกระดับการทำธุรกรรมกับบรรดาพันธมิตรต่างชาติด้วยสกุลเงินหยวน และบอกว่าแนวโน้มเช่นนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นต่อไป เนื่องจากมีชาติเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้นที่อ้าแขนต้อนรับการซื้อขายน้ำมันด้วยสกุลเงินหยวนและมีสัดส่วนสกุลเงินหยวนในทุนสำรองระหว่างประเทศของตนเอง เนื่องจากพวกเขามีการค้าขายกับจีนมากกว่าสหรัฐฯ มากมายหลายเท่า

รูบินี เสริมต่อว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่นสกุลเงิน CBDC (สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง) ระบบชำระเงินอย่างอาลีเพย์ การจัดวงเงินสำหรับทำธุรกรรม (Swap lines) ระหว่างจีนและพันธมิตร และระบบ SWIFT แบบแอนะล็อกระดับชาติ จะเป็นตัวเร่งการถือกำเนิดของสกุลเงินโลกและระบบการเงินโลก 2 ขั้ว"

"สำหรับเหตุผลทั้งหมดนี้ ความเสื่อมถอยของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองหลักมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในทศวรรษหน้า การท้าชิงทางภูมิรัฐศาสตร์หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงระบบเงินสำรองระหว่างประเทศ 2 ขั้วเช่นกัน" รูบินี กล่าวปิดท้าย

(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น