xs
xsm
sm
md
lg

"ประสาร" ชี้เงินเฟ้ออยู่ยาว บลจ.วรรณเชื่อจังหวะดีลงทุนจีน-กองทุนทางเลือก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ดร.ประสาร" ชี้เศรษฐกิจถดถอยอาจไม่รุนแรงแต่เงินเฟ้ออยู่ยาว เหตุตัวแปรด้านค่าแรง-บริการยังไม่ลด สวนทางกับราคาน้ำมัน แต่เชื่อเศรษฐกิจไทยยังโต 3.7% เหตุฟื้นตัวช้าและน่าจะได้รับอานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ บลจ.วรรณแนะจังหวะดีลงทุนจีนรับเศรษฐกิจฟื้นและการลดมาตรการโควิด พร้อมสินทรัพย์ทางเลือกช่วยพยุงพอร์ตช่วงการลงทุนผันผวน

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวภายในงานสัมมนาหัวข้อ "Reset Rebalance Recession" ที่จัดขึ้นโดย บลจ.วรรณว่า ประเด็นที่ได้รับความสนใจของเศรษฐกิจมีอยู่ด้วยกัน 3 ด้าน คือ 1. การเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งปีที่แล้วรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปมีการชะลอตัวลงและคาดว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ภายในปีนี้ 2. อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน ที่ผ่านมามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงอย่างรวดเร็วและรุนแรง และกังวลว่าจะเกิดเหตุต่อเนื่องมาถึงปีนี้หรือไม่ 3. ภูมิรัฐศาสตร์ที่ภายหลังเริ่มมีผลกระทบรุนแรงต่อตลาดเงินตลาดทุน

สำหรับเรื่องของเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะมีข่าวดีอยู่บ้างหลังจากที่ IMF ปรับเพิ่มจีดีพีเศรษฐกิจโลกขึ้นเป็น 2.9% แต่ถ้าเกิดเศรษฐกิจใหญ่ของโลกเช่นสหรัฐฯ ยุโรป มีการชะลอตัวเหมือนปีที่แล้วก็เป็นไปได้ว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขล่าสุดก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้างว่าเศรษฐกิจถดถอยอาจไม่รุนแรงมากนัก ส่วนเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น และในปีนี้น่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 3.7% หลังจากในช่วงโควิดไทยได้รับผลกระทบหนักแต่การฟื้นตัวล่าช้ากว่าประเทศอื่นและเชื่อว่าในช่วงกลางปีนี้เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเติบโตได้เทียบเท่ากับช่วงก่อนเจอปัญหาโควิด โดยศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ระหว่าง 3-4% ต่อปี

"ประเด็นเรื่องของเงินเฟ้อนั้นเชื่อว่ายังไม่หายไปง่ายๆ แม้จะมีข่าวดีที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปตามคาดการณ์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ตัวชี้วัดบางตัวยังไม่ปรับลงเช่นค่าแรง ค่าบริการ แม้ราคาพลังงานจะปรับลดลงไปแล้วก็ตาม โดยน่าจะเห็นดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูงอีกสักระยะ และโอกาสจะได้เห็นการลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงปลายปีน้อยลง ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังต้องระมัดระวังและติดตามประเด็นเรื่องเงินเฟ้ออยู่ นอกจากนี้ ความขัดแย้งในเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ยังเป็นตัวกดดันและในปีนี้อาจรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมาก็เป็นได้" ดร.ประสารกล่าว

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ จำกัด กล่าวว่า ถ้าดูภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปีที่ผ่านมาแน่นอนว่าจะเห็นการชะลอตัวและอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปีนี้ แต่ถ้าดูเรื่องการลงทุนจากผลการดำเนินงานในปีที่แล้วยังมีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีเช่นน้ำมัน และกลุ่ม TIP คือประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ที่กลับมาให้ผลตอบแทนเป็นบวกขณะที่ประเทศอื่นติดลบ เช่น หุ้นสหรัฐณ ดาวโจนส์ -10% S&P500 -20% หุ้นยุโรปลบประมาณ 15% โดยทั้งหมดเกิดจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่กระทบต่อการลงทุน

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในปีนี้ คาดว่าตลาดพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐฯ และยุโรปจะยังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ มีแต่ประเทศจีนเท่านั้นที่น่าจะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้นและจะช่วยให้ภูมิภาคตลาดเกิดใหม่กลับมาเติบโตตามไปด้วย ซึ่งการลดท่าทีแข็งแกร่งต่อมาตรการโควิดและการเปิดประเทศของจีนน่าจะส่งผลดีต่อจีนและกลุ่มประเทศในแถบภูมิภาคนี้

ขณะที่ นายสุทธิโรจน์ สิทธิวัฒนานนท์ หัวหน้าฝ่ายจัดการลงทุนตลาดต่างประเทศ บลจ.วรรณ กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นการลงทุนในหุ้นไม่น่าจะเลวร้ายเหมือนปีที่ผ่านมา และหุ้นที่ตกลงไปสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ซึ่งนักลงทุนพร้อมที่จะกลับเข้ามาลงทุนใหม่ในปีนี้ แต่จะยังคงเห็นการแกว่งตัวอยู่บ้างจากแรงกดดันต่างๆ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่ในโลกของการลงทุนแล้วในช่วงที่สถานการณ์ไม่ดีแต่ถ้าสามารถเลือกการลงทุนที่ดีแล้วการลงทุนจะมีผลงานที่ดีได้

"จีนได้รับผลกระทบจากปีที่แล้วน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในปีนี้และจีนเป็นตลาดที่เราแนะนำ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนทางเลือกที่แราแนะนำมาตลาด 2-3 ปีที่ผ่านมา คือกองทุนที่ลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรอง ซึ่งที่ผ่านมาผลตอบแทนโดดเด่นมากเกือบ 10% และยังมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนต่ำ และในช่วงที่การลงทุนไม่แน่นอนถ้ามีสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กับเรื่องนี้ต่ำจะช่วยประคองในช่วงที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยได้" นายสุทธิโรจน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น