"ทนง ขันทอง" เชื่อหลังสงครามยูเครนสิ้นสุดจะถือเป็นการปิดฉากอิทธิพลดอลลาร์สหรัฐ ชี้ระบบการเงินโลกใหม่ Bretton Woods III จะเกิดขั้วมหาอำนาจใหม่ นำโดย "จีน-รัสเซีย" จับมือกับกลุ่ม BRICS สร้างสกุลเงินใหม่ของโลกขึ้นมา เป็นอิสระจากดอลลาร์ หันไปอิงกับทองคำหรือสินค้าโภคภัณฑ์แทน
วันที่ 23 ม.ค. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "ผู้ชนะในระบบการเงินโลกใหม่ Bretton Woods III"
นายทนงกล่าวในช่วงหนึ่งว่า หลังสงครามยูเครนสิ้นสุดลง ซึ่งอาจเป็นสงครามโลกก็ได้ไม่มีใครทราบได้ แต่หลังจากนี้ถือว่าเป็นการปิดฉากอิทธิพลของดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งคำจำกัดความของเงินตราจะเปลี่ยนไป ทองคำหรือสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมัน จะเข้ามามีบทบาทต่อการเงินโลกในวาระต่อไป
ความเห็นของ นายโซลตัน พอซซาร์ (Zoltan Pozsar) นักยุทธศาสตร์ด้านอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเครดิต สวิส เขียนบทความหลังเกิดสงครามยูเครนไม่ถึงเดือน เขาเห็นว่าเกิดขั้วมหาอำนาจใหม่ นำโดยจีน รัสเซีย จับมือกับกลุ่ม BRICS ต้องการสร้างระเบียบเศรษฐกิจโลกใหม่ และสร้างระเบียบการเงินโลกใหม่ที่ออกจากอิทธิพลของโลกตะวันตก
นายทนงกล่าวอีกว่า ต่อไปภายภาคหน้าจะเห็นบทบาทของเงินหยวนมากยิ่งขึ้น และระบบการเงินที่กำลังมีการถกกันภายในกลุ่ม BRICS ซึ่งต้องการสร้างสกุลเงินใหม่ของโลกขึ้นมา ซึ่งเป็นสกุลเงินของกลุ่ม BRICS โดยไม่อิงกับดอลลาร์อีกต่อไป แต่อิงกับทองคำหรือสินค้าโภคภัณฑ์
กลุ่ม BRICS กำลังปลดแอกจากโลกตะวันตก และกำลังจะสร้างระบบการเงินโลกใหม่ที่เป็นอิสระจากเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งกำลังเสื่อมค่าลงไปเรื่อยๆ ถ้ายังคงดำเนินนโยบายพิมพ์เงินหรือเพิ่มปริมาณเงินในระบบโดยที่ไม่มีเพดาน นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เงินเฟ้อในขณะนี้ บวกกับนโยบายการคลังที่ก่องบประมาณขาดดุล การเพิ่มเงินใช้จ่ายของภาครัฐ เป็นสาเหตุที่สหรัฐฯ เจอกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายความเชื่อมั่นเงินดอลลาร์
นอกจากนี้ การติดอาวุธดอลลาร์ คือการที่ยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย การทำแบบนี้ทำให้ประเทศต่างๆ ที่ถือดอลลาร์ ถือยูโร คิดหนัก ต่อไปหากดำเนินนโยบายต่างประเทศไม่ถูกใจมหาอำนาจตะวันตกก็อาจถูกยึดก็ได้
นี่คือแรงกดดันต่างๆ ที่จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินโลกไปสู่ Bretton Woods 3 ซึ่งเป็นศัพท์ที่เราเรียกกันเพื่อความสะดวกเท่านั้นเอง ความจริงไม่ใช่ชื่อของ Bretton Woods 3 ซึ่งต่อยอดมาจาก Bretton Woods 1 และ 2