แรงงานมากกว่า 5 แสนคนผละงานประท้วงเกี่ยวกับค่าจ้างในสหราชอาณาจักร เมื่อวันพุธ (1 ก.พ.) ส่วผลให้เครือข่ายการขนส่งเป็นอัมพาต และชั้นเรียนหลายพันห้องมีแต่ความว่างเปล่า ในความเคลื่อนไหวผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ
ในขณะที่ยุโรปกำลังต่อสู้กับวิกฤตค่าครองชีพ สหภาพแรงงาน Trades Union Congress (TUC) แห่งสหราชอาณาจักร เรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็น "วันนัดผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011"
ริซี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องขอดำเนินการปรับขึ้นค่าจ้างสมเหตุสมผลและสามารถจ่ายได้ พร้อมเตือนว่าการปรับขึ้นค่าจ้างมากเกินไปจะบั่นทอนความพยายามควบคุมเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม ทางสหภาพแรงงานกล่าวหาเศรษฐีอย่างนายซูแน็ก ว่าไม่ได้รู้สึกรู้สากับปัญหาความยากลำบากต่างๆ ที่ชนชั้นแรงงานทั่วไปต้องเผชิญ ต้องดิ้นรนจัดการกับค่าจ้างระดับต่ำ ขาดความมั่นคงในหน้าที่การงานและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
พวกครูและพนักงานขับรถไฟเป็นหนึ่งในสหภาพแรงงานกลุ่มล่าสุดที่ทำการเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรตามสนามบินและท่าเรือต่างๆ ทั่วสหราชอาณาจักร
สหภาพแรงงานครู NEU ประเมินว่าโรงเรียนในอังกฤษและเวลส์ราว 85% ที่ได้รับผลกระทบจากการผละงานประท้วง พร้อมระบุตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงระดับความคับแค้นในอาชีพนี้
สหราชอาณาจักรพบเห็นการผละงานของแรงงานหลายหมื่นคนต่อเนื่องมานานหลายเดือน ในนั้นรวมถึงพนักงานไปรษณีย์ ทนายความ พยาบาล และลูกค้าในภาคค้าปลีก ท่ามกลางเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรที่พุ่งเกิน 11% ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี
แกรแฮม ซึ่งไม่ประสงค์เผยชื่อนามสกุล พนักงานของศูนย์หางานและเป็นตัวแทนของสหภาพแรงงาน ระบุว่า แรงงานไม่มีทางเลือกอื่นๆ นอกจากผละงานประท้วง เนื่องด้วยต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ "สมาชิกของเราบางคน แม้ว่าพวกเขามีงานทำอยู่ แต่ก็ยังคงต้องเข้ารับความช่วยเหลือที่ธนาคารอาหาร"
สถานีรถไฟในลอนดอน แทบไม่มีผู้คนหรือไม่ก็ถูกปิดบริการโดยสิ้นเชิง
มิค ลีนซ์ ผู้นำสหภาพ RMT ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานรถไฟจำนวนมาก บอกกับคณะครูที่ร่วมเดินขบวนไปทั่วลอนดอนมุ่งหน้าสู่รัฐสภาว่า "แรงงานทุกคนต้องการค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น แรงงานทุกคนต้องการข้อตกลงที่เสมอภาค เราต้องการการเปลี่ยนแปลง"
ขณะที่ แมรี บัวสเตด และเควิด คอร์ทนีย์ ประธานร่วมของสหภาพแรงงานครู NEU เตือนว่าโรงเรียนทั้งหลายอาจได้รับผลกระทบจากการผละงานประท้วงครั้งต่อไป จนกว่ารัฐบาลจะมาพร้อมกับข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมและมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล บรรดาผู้บริหารองค์กรและบริษัทต่างๆ ยืนยันจุดยืนของตนเอง ในเรื่องเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านค่าจ้าง ในนั้นรวมถึง กิลเลียน คีแกน รัฐมตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุไทม์ส เรดิโอ ว่าเธอรู้สึกผิดหวังมากต่อการผละงานประท้วงของคณะครู
ในส่วนท่าทีของซูแน็ก เมื่อถูกถามว่านายกรัฐมนตรีรายนี้จะทำอย่างไรเพื่อคลี่คลายปัญหาการผละงานประท้วง ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตอบว่าเงินเฟ้อยังคงเป็น "ความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุด" สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ และรัฐบาลพร้อมพูดคุยเจรจาเพิ่มเติมกับสหภาพแรงงานทั้งหลาย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการผละงานประท้วงอีก
อย่างไรก็ตาม โฆษกระบุว่าคณะรัฐมนตรีจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างข้อเรียกร้องของทางสหภาพแรงงานทั้งหลาย กับความจำเป็นต้องสกัดไม่ให้มันโหมกระพือเงินเฟ้อเพิ่มเติม และต้องให้ความเป็นธรรมกับบรรดาผู้เสียภาษีด้วย
(ที่มา : เอเอฟพี)
