โกลบอลไทมส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐจีน ระบุในขณะที่คลิปลับอ้างว่าผู้บริหารรายหนึ่งของไฟเซอร์ ผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐฯ ยอมรับบริษัทกำลังจงใจทดลองกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ด้วยฝีมือนักวิจัย เพื่อทำกำไรจากวัคซีน mRNA ใหม่ในอนาคต ถูกเผยแพร่อย่างครึกโครมบนสื่อสังคมออนไลน์ แต่สื่อกระแสหลักในสหรัฐฯ ของอเมริกากลับนิ่งเฉย พร้อมอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญชี้พฤติกรรมดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความตลบแตลงของสื่อมวลชนอเมริกาได้เป็นอย่างดี
ในวิดีโอ จอร์ดอน ทริชตัน วอล์คเกอร์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้อำนวยการของไฟเซอร์ ด้านวิจัยและพัฒนา อ้างว่าบริษัทของเขากำลังสำรวจหนทางหนึ่งในการกลายพันธุ์โควิด-19 ผ่านเทคนิค directed evolution เพื่อพัฒนาวัคซีนในอนาคตล่วงหน้า
ชายรายนี้ได้บอกกับนักข่าวคนหนึ่งของ Project Veritas ที่ปลอมตัวมาติดต่อพูดคุย เกี่ยวกับแผนของไฟเซอร์ในด้านการพัฒนาวัคซีนโควิด พร้อมยอมรับว่าผู้คนคงจะไม่ชอบใจนักหากว่าข้อมูลนี้หลุดออกสู่สาธารณะ
ไฟเซอร์ เผยแพร่ถ้อยแถลงชี้แจงเมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) ว่า "ในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค ที่กำลังดำเนินการอยู่ ไฟเซอร์ไม่ได้ดำเนินการวิจัยแบบ gain of function หรือ directed evolution"
"มีคำกล่าวอ้างต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ในเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยแบบ gain-of-function และ directed evolution ที่ไฟเซอร์ และทางบริษัทอยากจะขอแจกแจงแก้ไขความเข้าใจผิด" ถ้อยแถลงระบุ
ถ้อยแถลงบอกว่า "ในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์/ไบออนเทคที่กำลังดำเนินการอยู่ ไฟเซอร์ไม่ได้ดำเนินการวิจัยแบบ gain-of-function หรือ directed evolution ภายใต้การทำงานกับผู้ร่วมโครงการ เราทำการวิจัยในขอบเขตที่ไวรัส SARS-CoV-2 ตัวดั้งเดิม ถูกใช้ในการผลิตสารโปรตีนสไปค์จากสายพันธุ์ที่น่ากังวลใหม่ๆ"
"งานวิจัยนี้จะดำเนินการเมื่อครั้งที่ไวรัสตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวลหนึ่งถูกระบุโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข งานวิจัยนี้มอบหนทางให้เราประเมินอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ต่อการกระตุ้นแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความน่ากังวล" ถ้อยแถลงระบุ
"จากนั้นเราจะเปิดให้ข้อมูลนี้สามารถหยิบหาได้ผ่านวารสารทางวิทยาศาสตร์ หลังผ่านการตรวจทานทางวิชาการแล้ว และใช้มันเป็นหนึ่งในก้าวย่างของการสรุปว่าวัคซีนรุ่นอัปเดตมีความจำเป็นหรือไม่" ไฟเซอร์กล่าว
การวิจัยแบบ gain-of-function เป็นการวิจัยทางการแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ ในแนวทางของการสร้างซูเปอร์ไวรัสขึ้นมาเพื่อศึกษาว่ามันจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะปัองกันหรือรักษามันได้อย่างไรหากเกิดซูเปอร์ไวรัสดังกล่าวขึ้น
คลิปอื้อฉาวดังกล่าวโหมกระพือความกังวลต่อสาธารณชนในวงกว้าง ด้วยเฉพาะในทวิตเตอร์มีผู้เข้าชมแล้วมากกว่า 41.2 ล้านวิว
ทั้งนี้ ในวิดีโอ วอล์คเกอร์ คุยโวด้วยว่าโควิด-19 จะเป็นตัวทำเงินมหาศาลแก่ไฟเซอร์ไปอีกพักใหญ่
ในเรื่องนี้ โกลบอลไทมส์ ระบุว่าไฟเซอร์ตัดแต่งโควิด-19 เพื่อผลกำไรจริงหรือไม่ พวกเขาดำเนินการอย่างลับๆ หรือเปล่า การวิจัยเลยเถิดไปไกลแค่นี้ หรือกระทั่งความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดกับการวิจัย ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นสิ่งที่ประชาชนตั้งคำถามและต้องการคำตอบ
อย่างไรก็ตาม โกลบอลไทมส์ ชี้ว่าสื่อมวลชนกระแสหลักของสหรัฐฯ และตะวันตก รวมถึงบรรดานักการเมืองของอเมริกาต่างพร้อมใจกันปิดปากเงียบในประเด็นที่ปรากฏในวิดีโอ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากในอเมริกา ดินแดนที่รู้จักกันในฐานะเปิดกว้างความคิดเห็นที่หลากหลาย
แม้โกลบอลไทมส์ ระบุวิดีโอดังกล่าวยังไม่ผ่านการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่สื่อแห่งรัฐจีนตั้งคำถามว่าทำไมทางสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) สมาชิกสภาคองเกรส และสื่อมวลชนถึงไม่ลงมือสืบสวนเพิ่มเติมและให้คำอธิบายต่อสาธารณะ
รายงานของโกลบอลไทมส์ บอกต่อว่าจนถึงตอนนี้ สื่อมวลชนสหรัฐฯ ส่วนใหญ่และบรรดานักการเมืองยังคงเมินเฉยในเรื่องนี้ ซึ่งสวนทางโดยสิ้นเชิงกับเมื่อครั้งที่พวกเขากระวีกระวาดโหมกระพือข่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงกลายพันธุ์ของโควิด-19 หลังจากจีนละทิ้งนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ผิดกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ แห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าสำนักข่าวของอเมริกาจะมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นและใช้เหตุใช้ผลมากขึ้น ไม่เร่งรีบด่วนสรุปใดๆ โกลบอลไทมส์เขียนในเชิงประชดประชัน
โกลบอลไทมส์ กล่าวต่อไปอีกว่า หากวิดีโอลับลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในจีน ไม่มีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่และประชาชนชาวจีนจะจริงจังกับเรื่องนี้อย่างมาก ไม่ใช่แค่บริษัทที่เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจงรายละเอียดเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการสืบสวนค้นหาความจริงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ หยิบยกคำพูดของ ทัคเกอร์ คาร์ลสัน ผู้ดำเนินรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคลากรสื่อมวลชนสหรัฐฯ ไม่กี่คนที่กล้าแตะต้องในประเด็นนี้ โดย คาร์ลสัน กล่าวว่า "ในประเทศนี้ บริษัทยาใช้จ่ายเงินมากกว่าอุตสาหกรรมไหนๆ ในการล็อบบี้สภาคองเกรส พวกเขาใช้เงินล็อบบี้มากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ และไม่ได้ทำมันโดยบังเอิญ พวกเขาทำมันเพราะมันคุ้มค่า"
จากข้อมูลของไฟเซอร์ พบว่าจนถึงปลายปี 2022 วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค ถูกส่งออกไปประเทศต่างๆ ทั่วไปโลก 181 แห่ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,300 ล้านดอลลาร์ และไม่นานที่ผ่านมา อัลเบิร์ต บัวร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ ต้องเจอคำถามหนักๆ จากพวกผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงวัคซีนโควิด-19 ของทางบริษัท รอบนอกการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม
"สื่อมวลชนตะวันตกไม่ได้พูดความจริง แต่มุ่งเน้นผลกำไร" โกลบอลไทม์ส อ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจีนรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม "ทุกคนรู้ว่าบริษัทยาใหญ่ของสหรัฐฯ และสื่อมวลชนกระแสหลักที่ควบคุมโดยทุน มีความเชื่อมโยงกันสัมพันธ์กันโดยผลประโยชน์ การปิดปากเงียบของสื่อมวลชนมากมายในเรื่องเกี่ยวกับวิดีโอนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นอีกครั้งถึงความตลบแตลงของสื่อมวลชนอเมริกา"
(ที่มา : โกลบอลไทม์ส/mgronline)