xs
xsm
sm
md
lg

IMF ปรับเพิ่มอัตราเติบโตเศรษกิจโลกปี 2023 ชี้การบริโภคเข้มแข็งเกินคาด-จีนเปิดประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ (กลาง) ขณะมาแถลงข่าวการอัปเดตรายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ที่สิงคโปร์ วันอังคาร (31 ม.ค.)
ไอเอ็มเอฟปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากดีมานด์ที่ยืดหยุ่นเกินคาดในอเมริกาและยุโรป ตลอดจนการลดลงของต้นทุนพลังงาน และการเปิดประเทศของจีนภายหลังยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ในรายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับอัปเดตล่าสุดที่เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (31 ม.ค.) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า อัตราเติบโตของโลกจะลดลงจาก 3.4% ในปี 2022 อยู่ที่ 2.9% ในปีนี้ แต่ยังถือว่าดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ 2.7% และมาพร้อมคำเตือนว่า เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างง่ายดาย

สำหรับปี 2024 ไอเอ็มเอฟคาดว่า อัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะบวกเพิ่มเล็กน้อยเป็น 3.1% แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนตุลาคม 0.10% สืบเนื่องจากผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ที่ทำให้อุปสงค์ชะลอตัว

ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยลดลงและธนาคารกลางมีความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ยังต้องพยายามมากขึ้นเพื่อควบคุมราคา และการหยุดชะงักใหม่ๆ อาจเกิดจากสงครามในยูเครนที่ลุกลามออกไป รวมทั้งการต่อสู้กับโควิดในจีน

กูรินชาส เสริมว่า ประเทศต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด กระนั้น เชื่อว่า เศรษฐกิจโลกอาจมาถึงจุดเปลี่ยนที่การเติบโตถึงจุดต่ำสุดแล้วและเงินเฟ้อลดลง

สำหรับอเมริกานั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1.4% จากที่คาดไว้ 1% ในเดือนตุลาคม และเทียบกับอัตราเติบโต 2% ในปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการบริโภคและการลงทุนในไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาด เช่นเดียวกับตลาดแรงงานและงบดุลของผู้บริโภค

รายงานคาดว่า อัตราเติบโตของยูโรโซนปีนี้จะอยู่ที่ 0.7% เพิ่มขึ้น 0.2% จากการคาดการณ์ในเดือนตุลาคม และเทียบกับอัตราขยายตัว 3.5% ในปี 2022 ไอเอ็มเอฟแจงว่า ยุโรปสามารถปรับตัวรับมือต้นทุนพลังงานพุ่งโด่งได้เร็วเกินคาด และราคาพลังงานที่ลดลงส่งผลดีต่อภูมิภาคนี้

อังกฤษเป็นประเทศชั้นนำเพียงแห่งเดียวที่ถูกคาดหมายว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ โดยจีดีพีมีแนวโน้มลดลง 0.6% ขณะที่ภาคครัวเรือนเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูง ซึ่งรวมถึงราคาพลังงานและการจำนอง

ขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปีนี้เป็น 5.2% จากที่คาดไว้เดิม 4.4% หลังจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์หั่นอัตราเติบโตของจีนเหลือ 3% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปีที่จีดีพีจีนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก

ไอเอ็มเอฟสำทับว่า การเติบโตของจีนในปีหน้าจะลดลงอยู่ที่ 4.5% ก่อนที่จะปรับตัวลงอยู่ต่ำกว่า 4% ในระยะกลางท่ามกลางพลวัตธุรกิจที่ลดลงและความคืบหน้าในการปฏิรูปโครงสร้างชะลอลง

ขณะเดียวกัน แนวโน้มการเติบโตของอินเดียประจำปีนี้ยังคงเดิมคือลดลงอยู่ที่ 6.1% ก่อนเพิ่มเป็น 6.8% ในปี 2024 เท่ากับอัตราเติบโตปีที่ผ่านมา

กูรินชาส ชี้ว่า เศรษฐกิจจีนและอินเดียจะร่วมกันสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจโลกกว่า 50%

อย่างไรก็ดี สำหรับสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกปรับลดจีดีพีปีนี้ลง โดยจีดีพีสิงคโปร์อยู่ที่ 1.5% จากที่คาดไว้ 2.3% ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่ส่งผลกระทบมากกว่าข้อดีจากการที่จีนเปิดประเทศ

เขายอมรับว่า การเปิดประเทศของจีนอาจเพิ่มความกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์บ้าง แต่ถือว่าส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกเนื่องจากจะช่วยลดคอขวดการผลิตที่เคยทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น และทำให้ดีมานด์จากภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงทั้งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอลงเมื่อเทียบกับปี 2022

รายงานระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้มีทั้งขาขึ้นและขาลง กล่าวคือ การออมเงินเพิ่มทำให้มีความเป็นไปได้ที่อุปสงค์จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว และความกดดันด้านแรงงานที่ลดลงในประเทศชั้นนำบางแห่งช่วยให้เงินเฟ้อลดลง ดังนั้น ความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยแรงจึงลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟเตือนว่ามีความเสี่ยงขาลงเพิ่มขึ้นและรุนแรงขึ้น ซึ่งรวมถึงการที่โควิดอาจระบาดหนักขึ้นในจีน และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์เลวร้ายลง

นอกจากนั้น การลุกลามของสงครามในยูเครนอาจทำให้ราคาพลังงานและอาหารพุ่งขึ้น

กูรินชาสปิดท้ายว่า อัตราเงินเฟ้อหลักอาจพุ่งถึงจุดสูงสุดในบางประเทศ เช่น อเมริกา แต่ธนาคารกลางยังจำเป็นต้องระมัดระวังและตรวจสอบให้แน่ใจว่า เงินเฟ้ออยู่บนเส้นทางขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่อัตราดอกเบี้ยจริงต่ำ เช่น ในยุโรป

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น