เครมลินชี้การให้สัญญาจัดส่งรถถังให้ยูเครนเท่ากับอเมริกา และเยอรมนีมีส่วนร่วมโดยตรงในสงคราม นอกจากนั้น รัสเซียยังยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนระลอกใหญ่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนวันพฤหัสบดี (26 ม.ค.) ขณะที่เซเลนสกีได้คืบจะเอาศอก อ้อนนาโต้จัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลและเครื่องบิน
วันพฤหัสฯ กองทัพยูเครนแถลงว่า สามารถยิงโดรนทั้ง 24 ลำของรัสเซียเมื่อคืนวันพุธ (25) ซึ่งรวมถึง 15 ลำในเคียฟ โดยไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด
ทว่า หลังจากนั้นไม่นานเสียงสัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังระงมทั่วยูเครนขณะที่ประชาชนกำลังเดินทางไปทำงาน กระนั้นเจ้าหน้าที่อาวุโสบอกว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถทำลายขีปนาวุธของรัสเซีย
ด้าน ดีเทค ผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในยูเครน เผยว่า ได้ดับไฟฟ้าฉุกเฉินในเคียฟและแคว้นต่างๆ โดยรอบ รวมถึงแคว้นโอเดสซา และแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์เนื่องจากสถานการณ์อันตราย
นักวิเคราะห์ตะวันตกมองว่า การโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนระลอกล่าสุดเป็นเพียงความพยายามทำลายขวัญกำลังใจมากกว่าที่จะเป็นแผนการยุทธศาสตร์ของรัสเซีย
คาดหมายกันว่า สองฝ่ายสองฝ่ายจะเปิดฉากการรบภาคพื้นดินกันใหม่ในช่วงฤดูหนาวหรือต้นฤดูใบไม้ผลิปีนี้ โดยที่ยูเครนกำลังเรียกร้องต้องการให้ฝ่ายตะวันตกจัดส่งรถถังหลักจำนวนหลายร้อยคันมาให้ โดยบอกว่าเพื่อใช้ยันการรุกระลอกใหม่ของแดนหมีขาว และฝ่าแนวต้านของรัสเซียชิงดินแดนทางภาคใต้และภาคตะวันออกกลับคืน ขณะที่ผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่า การที่เคียฟร้อนรนขออาวุธเพิ่มจำนวนมากเช่นนี้น่าจะสะท้อนว่าขณะนี้พวกเขามีปัญหาใหญ่ในการยันฝ่ายรัสเซีย
ระหว่างการปราศรัยทางออนไลน์เมื่อคืนวันพุธ (25) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนระบุว่า กุญแจสำคัญในขณะนี้คือความเร็วในการฝึกกองกำลังยูเครน และความเร็วตลอดจนจำนวนรถถังที่พันธมิตรจะจัดส่งให้
เซเลนสกียังเดินหน้าเรียกร้องการสนับสนุน โดยเผยว่า ได้ขอให้เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลและเครื่องบินรบให้
"พวกเราต้องเปิดกว้างสำหรับการส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกลมาให้ยูเครน มันเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องขยายขอบเขตความร่วมมือของเราในด้านปืนใหญ่" เซเลนสกีกล่าวต่อ และย้ำว่า "นี่คือความฝัน และนี่คือภาระหน้าที่"
ที่ผ่านมา พันธมิตรตะวันตกให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่เคียฟรวมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธล้ำสมัยของอเมริกา ที่ฝ่ายตะวันตกบอกว่าพลิกสถานการณ์การสู้รบในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
อเมริกานั้นกังวลกับการส่งรถถังหนัก เอบรามส์ ของตนให้ยูเครน แต่ต้องเปลี่ยนแผนมาโน้มน้าวให้เยอรมนีส่งรถถังลีโอพาร์ด ที่ใช้งานง่ายกว่าให้เคียฟ
วันพุธเบอร์ลินประกาศแผนส่งรถถังหนักให้ยูเครน โดยเริ่มต้นที่จำนวน 14 คัน ซึ่งจะสามารถใช้งานได้ภายใน 3-4 เดือน พร้อมอนุมัติให้พวกพันธมิตรในยุโรปส่งรถถังลีโอพาร์ดของพวกเขาแต่ผลิตจากเยอรมนี ไปให้แก่เคียฟ โดยคาดว่ารวมแล้วจะสามารถจัดส่งรถถังลีโอพาร์ดให้แก่ยูเครนเป็นจำนวน 2 กองพัน คิดเป็นจำนวนประมาณ 100 คัน
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงที่กรุงวอชิงตันในวันเดียวกันว่า รถถังเอ็ม 1 เอบรามส์ 30 คันที่วอชิงตันจะจัดหาให้ยูเครน จะไม่เป็นภัยคุกคามรัสเซีย
ทว่า เซียร์เก เนชาเยฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเยอรมนี วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดน ว่า “อันตรายอย่างยิ่ง” เนื่องจากจะทำให้ความขัดแย้งเข้าสู่การเผชิญหน้าในระดับใหม่
ต่อมาในวันพฤหัสฯ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน สำทับว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่ยุโรปและอเมริกาพร่ำพูดว่า การส่งอาวุธประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงรถถังให้ยูเครน ไม่ได้หมายถึงการมีส่วนร่วมในสงคราม และสำหรับรัสเซียแล้วนี่คือการมีส่วนร่วมโดยตรงและลงลึกมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์การสู้รบล่าสุดนั้น กองทัพยูเครนเผยว่า มีการสู้รบหนักที่สุดรอบๆ เมืองบัคมุต ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของรัสเซียในการเข้ายึดแคว้นโดเนตสก์ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการโดเนตสก์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากมอสโก เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า กลุ่มทหารรับจ้างของกลุ่มวากเนอร์ เคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองบัคมุตแล้ว โดยมีการสู้รบบริเวณชานเมือง และย่านที่พักอาศัยที่อยู่ในการควบคุมของยูเครน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)