ยูเครนช็อก เฮลิคอปเตอร์ของรัฐมนตรีมหาดไทยโหม่งโลกเมื่อวันพุธ (18 ม.ค.) ที่ย่านชานเมืองของเมืองหลวงเคียฟ ใกล้ๆ สถานรับเลี้ยงเด็กเล็กแห่งหนึ่ง แล้วทำให้เกิดไฟไหม้เนอร์สเซอรี่แห่งนั้น ขณะมีเด็กอยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมาก รวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 14 คนตามตัวเลขที่อัปเดตใหม่ โดยในจำนวนนี้คือตัวรัฐมนตรี และเด็ก 1 คน
นอกจากผู้เสียชีวิตซึ่งประกอบด้วยผู้อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ 9 คน เป็นลูกเรือ 3 และผู้โดยสาร 6 และผู้ที่อยู่ทางภาคพื้นดินอีก 5 รายแล้ว ยังมีคนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบราย โดยเป็นเด็กๆ จำนวนมาก หลายๆ รายได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้ เมื่อเฮลิคอปเตอร์แบบ “ซูเปอร์ พูมา” ผลิตในฝรั่งเศส ลำนี้ดิ่งลงมาท่ามกลางหมอกหนา ที่ย่านโบรวารี ซึ่งเป็นชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงเคียฟ แล้วตกลงไปในพื้นที่ของสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนั้น เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ มีอาคารด้านหนึ่งของสถานเลี้ยงเด็กถูกพระเพลิงเผาผลาญ
สำนักงานเหตุฉุกเฉินของยูเครนแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 14 ราย ก่อนหน้านี้หลายหน่วยงานของรัฐบาลให้ตัวเลขคนตายที่สูงกว่านี้ บางรายให้ถึง 18 คน
ฮลิบ เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่พำนักอาศัยอยู่แถวนั้น เล่าว่า เห็นคนบาดเจ็บ เด็กๆ ที่บาดเจ็บ จุดที่เกิดไฟไหม้นั้นมีหมอกลงหนา มีเสียงกรีดร้องดังระงม ผู้ประสบเหตุช่วยกันนำเด็กๆ ออกมา และส่งข้ามรั้วออกไปจากสถานเลี้ยงเด็กแห่งนั้นซึ่งพระเพลิงกำลังลุกไหม้ โดยเฉพาะที่ชั้น 2
บริเวณสนามเด็กเล่นที่อยู่ในสภาพเป็นโคลมตม มีเศษซากหักพังกระจายเกลื่อน ขณะที่ลานแห่งหนึ่งถูกจัดเป็นที่ไว้ร่างของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยหลายคน พวกเขาสวมเครื่องแบบสีน้ำเงินและสวมรองเท้าบูตสีดำ สามารถมองเห็นโผล่ออกมาจากผ้าห่มซึ่งห่อคลุมศพของพวกเขาเอาไว้ มีชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเฮลิคอปเตอร์ชิ้นหนึ่งหล่นลงมาใส่รถยนต์คันหนึ่ง ทำให้รถพังยับเยิน
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ออกคำแถลงว่ายังอยู่ระหว่างการรวบรวมจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่ชัดเจน และเขาได้สั่งการให้สอบสวนเหตุโศกนาฏกรรมขวัญสยองคราวนี้แล้ว
ขณะที่ อิฮอร์ คลีเมนโก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของยูเครน แถลงยืนยันว่า เดนิส โมนาสตีร์สกี รัฐมนตรีมหาดไทย และเยฟฮินี เยนิน รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เสียชีวิต รวมทั้งพวกเจ้าหน้าที่กระทรวงคนอื่นๆ ซึ่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ที่เป็นของสำนักงานเหตุฉุกเฉินแห่งรัฐ
เจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่ายบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะวินิจฉัยว่าสาเหตุ ฮ. ตกคราวนี้เกิดจากอะไร รวมทั้งยังไม่มีใครพูดในเฉพาะหน้านี้ว่าเป็นการโจมตีของฝ่ายรัสเซียหรือไม่
ด้าน SBU สำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐของยูเครนกล่าวว่า จะพิจารณาสาเหตุความเป็นไปได้หลายๆ ทาง เป็นต้นว่า การละเมิดกฎการบิน ความบกพร่องผิดพลาดทางเทคนิคของเฮลิคอปเตอร์ ตลอดจนการมุ่งทำลาย ฮ.อย่างจงใจ
ทางรัสเซียนั้นยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ และยูเครนไม่ได้ระบุว่า รัสเซียโจมตีบริเวณดังกล่าวในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
โมนาสตีร์สกี ซึ่งรับผิดชอบหน่วยงานตำรวจและความมั่นคงภายในยูเครน ถือเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดที่เสียชีวิตนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
สำหรับสถานการณ์ในด้านอื่นๆ ยูเครนรายงานว่า เมื่อคืนวันอังคาร (17) เกิดการสู้รบหนักกับฝ่ายรัสเซียที่บริเวณภาคตะวันออกของประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียกำลังพลและอาวุธจำนวนมาก แต่มีความคืบหน้าน้อยมากในการรบที่กำลังกลายเป็นสงครามสนามเพลาะในช่วง 2 เดือนล่าสุดมานี้
กองทัพยูเครนยังรายงานว่า สามารถสกัดการโจมตีในเมืองบัคมุต เมืองสำคัญในแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งรัสเซียทุ่มกำลังบุกต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และสัปดาห์ที่แล้วได้อ้างว่า เข้ายึดเมืองโซเลดาร์ที่อยู่ทางด้านเหนือของบัคมุตได้แล้ว
ช่วง 2 เดือนหลังๆ นี้ ยูเครนบอกว่าแนวรบด้านต่างๆ เริ่มตึงเครียดมากขึ้น พร้อมกับแสดงความหวังว่า อาวุธใหม่ๆ จากตะวันตกจะช่วยให้ตนสามารถชิงพื้นที่ต่างๆ คืนจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถถังหนักที่จะทำให้กองทัพยูเครนเคลื่อนที่และป้องกันการโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
พันธมิตรตะวันตกมีกำหนดประชุมกันในวันศุกร์ (20) ที่ฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ในเยอรมนี เพื่อประกาศจัดส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม โดยจุดสนใจอยู่ที่เยอรมนีที่มีอำนาจยับยั้งการตัดสินใจส่งรถถังลีโอพาร์ดของตนซึ่งใช้แพร่หลายในยุโรป และถูกมองว่า เหมาะสมที่สุดที่จะส่งให้ยูเครน
ล่าสุด เบอร์ลินแย้มว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับรถถังหนักรุ่นนี้จะเป็นประเด็นสำคัญแรกสำหรับ บอริส พิสโตเรียส รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่
ด้านอังกฤษที่ละเมิดข้อห้ามของตะวันตกด้วยการให้สัญญาจัดส่งรถถังหนักแบบ ชาเลนเจอร์ 2 ให้ยูเครนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้เยอรมนีอนุมัติการส่งลีโอพาร์ดให้เคียฟ ขณะที่โปแลนด์และฟินแลนด์ประกาศก่อนหน้านี้ว่า พร้อมส่งลีโอพาร์ดหากเบอร์ลินอนุญาต
ที่มอสโก เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย วิจารณ์ว่า อเมริการวบรวมแนวร่วมยุโรปและใช้ยูเครนเป็นตัวแทนในการสู้รบเพื่อตอบ “คำถามของรัสเซีย” แบบเดียวกับ “คำตอบสุดท้าย” ของอะดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งหมายถึงแผนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวทั้งหมดในยุโรป
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียสำทับว่า มอสโกไม่เห็นแนวโน้มการเจรจาสันติภาพและอาจไม่มีการเจรจากับโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน โดยก่อนหน้านี้รัสเซียย้ำว่า การเจรจาจะเป็นไปได้ต่อเมื่อเคียฟยอมรับว่าดินแดนในยูเครนที่รัสเซียผนวกั้นเป็นส่วนหนึ่งของแดนหมีขาวไปแล้ว ขณะที่เคียฟประกาศจะรบจนกว่ารัสเซียถอนออกไปจากประเทศ