xs
xsm
sm
md
lg

'เมดเวเดฟ' ซัดนายกฯ ญี่ปุ่นทำตัวเป็นขี้ข้าสหรัฐฯ แนะให้ไป ‘คว้านท้อง’ ฆ่าตัวตายเสีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดมิตรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมากล่าวหานายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นว่าทำตัวเป็นเบี้ยล่างสหรัฐฯ อย่างน่าอับอาย และสมควรที่จะปลิดชีพตัวเองด้วยวิธี “คว้านท้อง” ตามแบบนักรบซามูไร

ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นคำพูดยั่วยุล่าสุดจาก เมดเวเดฟ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นผู้นำนักปฏิรูปที่เอียงข้างตะวันตก ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักการเมืองสายเหยี่ยวแบบเต็มขั้นหลังจากที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อต้นปีที่แล้ว

คิชิดะ ได้ประชุมซัมมิตร่วมกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (13) และระหว่างแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันเสาร์ (14) ผู้นำญี่ปุ่นก็ไม่ได้เอ่ยถึงคำวิจารณ์ของเมดเวเดฟ และไม่มีใครถามเขาในประเด็นนี้ด้วย

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นที่ติดตาม คิชิดะ ไปสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาให้ความเห็นในประเด็นนี้

เมดเวเดฟ ได้ชื่อว่าเป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมด้านกลาโหม

คำพูดของ เมดเวเดฟ มีขึ้นหลังจากที่ คิชิดะ และ ไบเดน ได้ออกคำแถลงร่วมเมื่อวันศุกร์ (13) ว่า “เราขอประกาศอย่างชัดเจนกว่า หากรัสเซียนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ในยูเครน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม จะถือเป็นการมุ่งร้ายต่อมนุษยชาติ และไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้นในทุกกรณี”

คิชิดะ ยังเรียกร้องในวันเสาร์ (14) ให้บรรดาผู้นำกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ซึ่งจะมีการประชุมซัมมิตที่ฮิโรชิมาในเดือน พ.ค.นี้ ประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะธำรงไว้ซึ่งระเบียบสากลและหลักนิติธรรม หลังจากที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครน

เมดเวเดฟ ชี้ว่า ถ้อยแถลงเรื่องนิวเคลียร์ของ คิชิดะ สะท้อนถึงการเป็น “โรคจิตหวาดระแวง” (paranoia) รัสเซีย และยังเป็นการ “ทรยศต่อความทรงจำของชาวญี่ปุ่นหลายแสนคนที่ถูกไฟนิวเคลียร์เผาผลาญที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ” โดยหมายถึงตอนที่สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกใส่ญี่ปุ่นเพื่อบีบให้ยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2

อดีตผู้นำรัสเซียยังบอกด้วยว่า แทนที่จะเรียกร้องให้สหรัฐฯ แสดงความสำนึกเสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไป คิชิดะกลับทำตัวเป็น “คนรับใช้” ของอเมริกา ซึ่งเป็นพฤติกรรมน่าอับอายที่จะลบล้างได้ด้วยการทำ “เซปปุกุ” (seppuku) หรือ “ฮาราคีรี” (Harakiri) ซึ่งหมายถึงพิธีคว้านท้องฆ่าตัวตายตามแบบซามูไร ต่อหน้าคณะรัฐมนตรีหลังจากที่ คิชิดะ เดินทางกลับถึงญี่ปุ่นแล้วเท่านั้น

นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุขึ้น เมดเวเดฟก็ออกมาขู่ย้ำหลายรอบว่าการแทรกแซงของชาติตะวันตกอาจนำไปสู่ “สงครามนิวเคลียร์” แถมยังเคยเรียกชาวยูเครนว่าเป็นพวก “แมลงสาบ” ซึ่งรัฐบาลเคียฟมองว่าเป็นการใช้ภาษาที่สะท้อนการขู่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ปูติน ยอมรับว่าความเสี่ยงในการเกิดสงครามนิวเคลียร์ “เพิ่มขึ้น” แต่ก็ยืนยันว่ารัสเซีย “ไม่ได้เสียสติ” และจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องป้องกันตนเองเท่านั้น

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น