รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียบินไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการทหารที่กำลังสู้รบอยู่ในยูเครน ขณะที่ประธานเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ก็เดินทางไปศูนย์ฝึกในเยอรมนีเพื่อดูโครงการฝึกทหารยูเครนให้พร้อมสำหรับการสู้รบ นอกจากนี้ อเมริกายังส่งคณะผู้แทนทางทหารและการทูตไปเยือนเคียฟเพื่อหารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ทางการค้าในอนาคต
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันอังคาร (17 ม.ค.) ณ ศูนย์บัญชาการสู้รบของกลุ่มทหารวอสต็อก (ตะวันออก) ของรัสเซีย ในสถานที่ที่ไม่มีการระบุ เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมแดนหมีขาว ได้รับฟังการบรรยายสรุปของพวกผู้บัญชาการทหารเกี่ยวกับสถานการณ์การทหารในภาคสนามในปัจจุบัน และการปฏิบัติการของหน่วยทหารรัสเซียหน่วยต่างๆ
ทางกระทรวงยังเผยแพร่วิดีโอภาพชอยกูประชุมกับพวกผู้บังคับบัญชาทหาร ซึ่งรวมถึงการประชุมผ่านวิดีโอลิงก์กับ พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการการปฏิบัติการทั้งหมดของมอสโกในยูเครน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ชอยกูก็เดินทางไปยังพื้นที่ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” 2 ครั้ง รวมถึงการตรวจเยี่ยมกำลังพลในแนวหน้า
ในอีกด้านหนึ่ง พล.อก.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปค่ายฝึกกราเฟนวือร์ ในรัฐบาวาเรียของเยอรมนีเมื่อวันจันทร์ (16) เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการฝึกทหารยูเครน หลังจากที่วอชิงตันเพิ่มความพยายามในการเตรียมพร้อมทหารยูเครนสำหรับปฏิบัติการสู้รบ
การเยือนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่อเมริกาเพิ่งขยับขยายโครงการฝึกทหารยูเครนในฐานทัพกราเฟนวือร์ เมื่อวันอาทิตย์ (15) ซึ่งมิลลีย์เผยว่า เพนตากอนคาดหวังฝึกทหารยูเครน 500 นายให้พร้อมสำหรับการสู้รบภายใน 5-8 สัปดาห์ข้างหน้า และสำทับว่า โครงการนี้จะมุ่งเน้นการฝึกร่วม ซึ่งหมายถึงการปฏิบัติภารกิจร่วมกันระหว่างหน่วยทหารราบ ทหารยานเกราะ ทหารปืนใหญ่ และทหารพลร่ม
มิลลีย์ บอกว่า เพนตากอนจัดการฝึกอบรมคล้ายกันนี้ให้แก่ทหารยูเครนก่อนที่ความขัดแย้งปัจจุบันจะเริ่มปะทุขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แต่นับจากนั้น ที่ปรึกษาอเมริกันก็มุ่งเน้นการฝึกสอนอาวุธบางชนิดที่อเมริกาจัดหาให้เคียฟ
วันเดียวกันนั้น คณะเจ้าหน้าที่ทางทหารและการทูตของอเมริกา เช่น เวนดี้ เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ โคลิน คาห์ล ปลัดกระทรวงกลาโหม และจอน ไฟเนอร์ รองที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนเคียฟพบปะกับเจ้าหน้าที่ยูเครน รวมถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เพื่อหารือเกี่ยวกับความพยายามทางการทูตและความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านความมั่นคงของยูเครน ตลอดจนถึงความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของอเมริกาและความสัมพันธ์ทางการค้าในอนาคต
ด้านมอสโกประณามการจัดส่งอาวุธของตะวันตกให้เคียฟมาโดยตลอด เมื่อเร็วๆ นี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศว่า รัสเซียกำลังเผชิญ “ศักยภาพและแสนยานุภาพทางทหารรวมของชาติสมาชิกสำคัญเกือบทั้งหมดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)
วันอาทิตย์ ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน สำทับว่า รถถังที่ตะวันตกส่งให้ยูเครนจะถูกเผาทำลายเช่นเดียวกับอาวุธทั้งหมดของตะวันตก
สำหรับที่เมืองดนิโปร ทางภาคกลางของยูเครน เจ้าหน้าที่เผยว่า พบร่างเด็กใต้ซากอาคารอพาร์ตเมนต์เมื่อวันอังคาร ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์เพิ่มเป็น 41 คน และยังสูญหายอีกหลายสิบคน โดยมีผู้บาดเจ็บ 79 คน และผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากซากตึก 39 คน
ทางฝ่ายมอสโกยืนกรานว่า ไม่มีเจตนาโจมตีพลเรือน พร้อมกล่าวหาว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเองที่พลาดไปโจมตีอาคารดังกล่าว ไม่ใช่ขีปนาวุธต่อสู้เรือของรัสเซียตามที่เคียฟกล่าวหา
