xs
xsm
sm
md
lg

เซเลนสกีเลือดขึ้นหน้า! กร้าวปกป้อง 'บัคมุต-โซเลดาร์' สุดกำลัง หลังส่อแพ้สมรภูมิแรกรอบหลายเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) ประกาศกร้าวว่าทหารยูเครนที่กำลังปกป้องเมืองบัคมุต และโซเลดาร์ ทางภาคตะวันออกของประเทศจะได้รับการติดอาวุธทุกอย่างที่จำเป็นในการสกัดการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย ในหนึ่งสมรภูมิที่มีการสู้รบดุเดือดที่สุดของสงครามที่ยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 11 แล้ว

ก่อนหน้านี้ เคียฟ เผยว่าทหารของพวกเขากำลังสู้รบเพื่อทวงคืนการควบคุมทั้ง 2 เมือง ซึ่งเป็นดินแดนอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งทหารรับจ้างรัสเซียกล่าวอ้างรุกคืบยึดครองได้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์

เครมลินวางการยึดครองบัคมุตและโซเลดาร์ เป็นเป้าหมายหลัก หลังจากยูเครนตีโต้ จนต้องละทิ้งเป้าหมายต่างๆ ที่มีความทะเยอทะยานมากกว่านี้ อย่างเช่นการยึดครองกรุงเคียฟ

"ผมต้องการเน้นว่าหน่วยทหารต่างๆ ที่กำลังปกป้องเมืองเหล่านี้จะได้รับมอบกระสุนและทุกอย่างที่จำเป็นอย่างทันเวลาและโดยปราศจากความติดขัดใดๆ" เซเลนสกีระบุในถ้อยแถลง หลังพบปะกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง

กานนา มัลยาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าการต่อสู้เพื่อแย่งชิงโซเลดาร์ นับเป็นการสู้รบที่ดุเดือดที่สุดและหนักหน่วงที่สุดของสงคราม "แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบาก แต่ทหารยูเครนกำลังต่อสู้แบบหัวชนฝา"

แม้กลุ่มวากเนอร์ กลุ่มทหารรับจ้างรัสเซีย ออกมากล่าวอ้างในวันพุธ (11 ม.ค.) ว่ากองกำลังของพวกเขายึดเมืองโซเลดาร์ได้แล้ว แต่กระทรงกลาโหมในมอสโก ยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ บอกว่ายังคงมีการสู้รบกันอยู่ ส่วนยูเครนระบุว่าเมืองแห่งนี้ยังไม่ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

อันเดรย์ บาเอฟสกี เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในแคว้นโดเนตส์ บอกว่ายังคงมีการต้านทานจากยูเครนในพื้นที่เล็กๆ ภายในเมืองโซเลดาร์ แต่อ้างว่าทหารที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย ใกล้เข้าควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว

ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าประสบความสูญเสียอย่างหนักหน่วงในการสู้รบเพื่อควบคุมโซเลดาร์และบัคมุต เมืองติดกันที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งมีความสำคัญต่อเป้าหมายของรัสเซีย ในการยึดดินแดนทั้งหมดของแคว้นโดเนตสก์ไปจากยูเครน

เครมลินในวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) ยกย่องทหารรัสเซีย ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเยี่ยงวีรบุรุษ ในภารกิจยึดแคว้นโดเนตสก์จากยูเครนและในแนวหน้าอื่นๆ "งานขนานใหญ่เสร็จสิ้นแล้วในโซเลดาร์ แน่นอนว่ามันเป็นการปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงวีรบุรุษอย่างไม่เห็นแก่ตัว และไม่ใช่แต่ในโซเลดาร์เท่านั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าว "ยังคงมีงานมากมายรออยู่เบื้องหน้า งานหนักยังมาไม่ถึง"

ความคืบหน้าในสมรภูมิโซเลดาร์ เกิดขึ้นในขณะที่เมื่อวันพุธ (11 ม.ค.) มอสโกแถลงปรับทัพครั้งใหญ่ แต่งตั้ง พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย เป็นผู้บัญชาการ “การปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน และให้ พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน ผู้บัญชาการคนเดิมที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นรองผู้บัญชาการ

นักวิเคราะห์รายหนึ่งซึ่งอยู่ในมอสโก ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีโดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และบ่งชี้ว่ารัสเซียมีปัญหาร้ายแรงมากๆ ในสมรภูมิ "มันไม่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 1941 ครั้งที่นายพลจอร์จี ซูคอฟ ถูกส่งไปบัญชาการในแนวหน้า"

เกราซิมอฟ ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ได้เดินทางไปเยือนเบลารุส พันธมิตรของรัสเซีย เพื่อตรวจตรากองกำลังร่วมที่ประจำการอยู่ที่นั่น จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมในมอสโก

ครั้งที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ เบลารุสอนุญาตให้ทหารของมอสโกประจำการในดินแดนของพวกเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดนยูเครน

รัสเซียต้องการควบคุมแคว้นโดเนตสก์อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลังจากพวกเขากล่าวอ้างผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อปีที่แล้ว แม้ยังไม่ได้ยึดครองแคว้นแห่งนี้อย่างสมบูรณ์

พวกนักสังเกตการณ์มองว่าในส่วนของโซเลดาร์ เมืองเหมืองเกลือ ซึ่งประมาณการว่ามีประชากรก่อนสงครามราวๆ 10,000 คน มีความสำคัญน้อยนิดในทางยุทศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การยึดเมืองแห่งนี้จะเปิดทางให้ รัสเซีย เร่ขายชัยชนะและสยบกระแสความไม่พึงพอใจภายในประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ต้องล่าถอยอย่างน่าอับอายในสมรภูมิแล้วสมรภูมิเล่า

"ชัยชนะใดๆ เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาไม่ได้รับชัยชนะมาสักพักแล้ว" อนาโตลี คารามชิคฮิน นักวิเคราะห์ด้านการทหารชาวรัสเซียบอกกับเอเอฟพี

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น