รัสเซียกลับมาดาหน้าถล่มภูมิภาคต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) หลังจากมอสโกยุติการหยุดยิงที่ประกาศเองแต่เพียงฝ่ายเดียวในช่วงคริสต์มาสออร์โธดอกซ์ และประกาศจะเดินหน้าการสู้รบจนกว่าจะบรรลุชัยชนะเหนือประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) ออกคำสั่งหยุดยิง 36 ชั่วโมง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ฉลองเทศกาลคริสต์มาสออร์โธดอกซ์ ซึ่งมีขึ้นในวันเสาร์ (7 ม.ค.) แต่ฝ่ายยูเครนยืนยันจะไม่หยุดยิง และเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่กลอุบายของมอสโกที่จะ “ซื้อเวลา” หลังจากที่กองกำลังรัสเซียตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอย่างหนักในสัปดาห์นี้
ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ตามแนวหน้า โอเลห์ ซีเนฮิวบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ เปิดเผยว่าชายวัย 50 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตในแคว้นแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ผลจากกระสุนปืนใหญ่ของรัสเซีย
ชาวคริสเตียนออร์โธดอกซ์ยูเครนส่วนใหญ่ มีธรรมเนียมเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสในวันที่ 7 มกราคม เช่นเดียวกับชาวคริสเตียนออร์โธดอกซ์รัสเซีย แต่ในปีนี้ โบสถ์ออร์โธดอกซ์ในยูเครนอนุญาตให้ฉลองคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคมเช่นกัน แต่จำนวนมากยังคงประกอบพิธีในวันเสาร์ (7 ม.ค.) หลั่งไหลกันไปตามโบสถ์และวิหารต่างๆ
เครมลินบอกว่ามอสโกจะเดินหน้าในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" ในยูเครนต่อไป ในขณะที่เคียฟและตะวันตกเรียกมันว่าเป็นการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุ เพื่อยึดดินแดน
"ภารกิจที่กำหนดโดยประธานาธิบดี (ปูติน) สำหรับปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารจะยังคงได้รับการตอบสนอง" สำนักข่าวทาสนิวส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐของรัสเซีย รายงานโดยอ้างคำกล่าวของ เซอร์เก คิริเยนโก รองเลขานุการคนที่ 1 ของปูตินกล่าว "และอย่างแน่นอนว่า มันจะเป็นชัยชนะ"
เวลานี้สงครามที่อยู่ในเดือนที่ 11 ยังไม่มีวี่แววของจุดจบ แม้มันได้เข่นฆ่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพันราย ทำประชาชนหลายล้านคนไร้ถิ่นฐาน และเปลี่ยนเมืองต่างๆ ของยูเครนเหลือแต่ซาก
เจ้าหน้าที่ยูเครนยังรายงานเกี่ยวกับเหตุระเบิดหลายจุดตามแคว้นต่างๆ ที่รวมกันเป็นภูมิภาคดอนบาส แนวหน้าของสงครามที่มีการสู้รบดุเดือดกันมานานหลายเดือน
พาฟโล คีรีเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนสตก์ในยูเครน บอกว่าแคว้นแห่งนี้ถูกยิงขีปนาวุธโจมตี 9 ลูกเมื่อคืนที่ผ่านมา ในนั้นรวม 7 ลูกเล็งเป้าเล่นงานเมืองครามาตอร์สก์ แต่จากข้อมูลเบื้องต้น ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เสียงระเบิดยังได้ยินที่เมืองซาโปริซเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แต่ไม่มีการเปิดเผยถึงตัวเลขความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี บอกในวันพุธ (4 ม.ค.) ว่ารัสเซียกำลังมีแผนเปิดปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่รอบใหม่ จากนั้นเพตากอนได้เสริมในวันศุกร์ (6 ม.ค.) ว่าเป้าหมายในการยึดดินแดนยูเครนนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าทหารรัสเซียกำลังประสบความสูญเสียอย่างหนักก็ตาม
มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า เบลารุส ผู้สนับสนุนตัวยงของมอสโก อาจถูกใช้งานในฐานะฐานที่มั่นสำหรับเปิดฉากโจมตียูเครนจากทางเหนือ หลังพบเห็นความเคลื่อนไหวทางทหารเพิ่มมากขึ้นในประเทศแห่งนี้ และรัสเซียลำเลียงกำลังพลรอบใหม่ไปยังเบลารุส
ช่องอย่างไม่เป็นทางการบนเทเลแกรม ที่เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวด้านการทหารในเบลารุส รายงานในช่วงค่ำวันเสาร์ (7 ม.ค.) ว่ามีทหารมอสโกราว 1,400-1,600 นาย เดินทางจากรัสเซียเข้าสู่เมืองวีเซียบสค์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเบลารุส ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
(ที่มา : รอยเตอร์)