เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมาเตือนวานนี้ (13 ม.ค.) ว่าหนี้สินของรัฐบาลอเมริกันจะพุ่งชนเพดานสูงสุด 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันที่ 19 ม.ค. และในกรณีดังกล่าวกระทรวงการคลังต้องใช้มาตรการพิเศษจัดการเงินสด ซึ่งจะช่วยยื้อการผิดนัดชำระหนี้ (default) เอาไว้ได้ถึงแค่ต้นเดือน มิ.ย.
“เมื่อหนี้สินชนเพดาน กระทรวงการคลังจำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐอเมริกาผิดนัดชำระหนี้” เยลเลน ระบุในจดหมายที่ส่งถึง เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน และบรรดาผู้นำคองเกรสคนอื่นๆ
เธอเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติขยายเพดานหนี้ “เพื่อปกป้องความเชื่อมั่นและเครดิต” ของสหรัฐฯ ไว้
“แม้กระทรวงการคลังจะยังไม่สามารถประเมินได้ว่า มาตรการพิเศษนี้จะสามารถช่วยให้เราชำระหนี้ตามกำหนดไปได้นานแค่ไหน แต่เชื่อว่าน่าจะยื้อเวลาไปได้จนถึงแค่ต้นเดือน มิ.ย.”
ส.ส.รีพับลิกันซึ่งตอนนี้คุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรขู่จะใช้ “เพดานหนี้” มาเป็นเครื่องมือต่อรองให้พวก ส.ส.เดโมแครตและรัฐบาล โจ ไบเดน ยอมตัดลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ท่ามกลางความกังวลทั้งในวอชิงตันและวอลล์สตรีทว่าการงัดข้อกันในสภาปีนี้อาจดุเดือด และสร้างความเสียหายรุนแรงไม่ต่างจากเมื่อปี 2011 ที่สหรัฐฯ ถึงขั้นถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือในช่วงเวลาสั้นๆ และยังต้องหั่นรายจ่ายทั้งในประเทศและด้านการทหารอยู่นานหลายปี
หลังจากที่มีการเผยแพร่จดหมายของเยลเลน คารีน จีน-ปิแอร์ โฆษกหญิงของทำเนียบขาว ได้ออกมายืนยันว่ารัฐบาล “จะไม่เจรจา” เรื่องเพดานหนี้อย่างแน่นอน
“นี่คือสิ่งที่ควรทำโดยปราศจากเงื่อนไข จะไม่มีการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้” เธอกล่าว
จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (10) พบว่าหนี้สินของรัฐบาลยังคงต่ำกว่าเพดานอยู่ 78 ล้านดอลลาร์ โดยมีระดับเงินคงคลัง (cash balance) อยู่ที่ 3.46 แสนล้านดอลลาร์
ที่มา : รอยเตอร์