xs
xsm
sm
md
lg

ระแวงไม่เลิก?!? ปักกิ่งยืนยันควบคุมการระบาดของโควิดได้ ขณะ‘ไบเดน-WHO-อียู’ข้องใจ ใช้มาตรการเข้มงวดกับผู้เดินทางจากจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คนไข้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ นอนบนเตียงในแผนฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.)  ขณะที่โรคโควิด-19 กำลังระบาด โดยที่ทางการจีนบอกว่า ควบคุมสถานการณ์ได้และคนไข้ส่วนใหญ่อาการไม่ร้ายแรง  แต่หลายประเทศตะวันตกยังข้องใจสงสัยไม่เลิก
ทางการจีนยืนยันในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) ว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในแดนมังกร อยู่ในภาวะ “สามารถควบคุมเอาไว้ได้” รวมทั้งมีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาดซึ่งที่เกี่ยวข้องกับประชาคมนานาชาติ ด้วยความเปิดกว้าง โปร่งใส และรวดเร็วมาโดยตลอด พร้อมกับจี้องค์การอนามัยโลก (WHO) รักษาจุดยืนที่อิงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์และปราศจากอคติ รวมทั้งพยายามแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการรับมือความท้าทายจากโรคระบาดใหญ่ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และ WHO ตลอดจนอียู แสดงความกังวลว่า ปักกิ่งเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิดต่ำกว่าความเป็นจริง

ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของ WHO กล่าวเมื่อวันพุธ (4) ว่า เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต และผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดต่ำกว่าความเป็นจริง และสำทับว่า จีนให้คำจำกัดความการเสียชีวิตจากโควิด แบบแคบมากๆ

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความกังวลเกี่ยวกับการจัดการการระบาดของโควิดในจีน ซึ่งมีรายงานว่า ทั้งโรงพยาบาลและฌาปนสถานมีผู้ใช้บริการล้นหลาม

ส่วนรัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสก็แสดงความวิตกคล้ายกัน ขณะที่คาร์ล เลาเทอร์บัค รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี เป็นห่วงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ย่อยใหม่ที่เชื่อมโยงกับจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกามากกว่า

อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสฯ เลาเทอร์บัค กลับลำออกคำแถลงว่า เยอรมนีจะเปลี่ยนนโยบายโดยหันมากำหนดให้นักเดินทางซึ่งมาจากจีนที่จะเข้าเยอรมนี ต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ โดยเขาอ้างอิงข้อแนะนำของคณะเจ้าหน้าที่ของอียูที่ตกลงกันได้ในการประชุมวันพุธ

ทั้งนี้ กลุ่มรับมือวิกฤตการณ์ทางการเมืองแบบบูรณาการ (IPCR) ของสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่มาจากรัฐบาล 27 รัฐสมาชิกของอียู ออกคำแนะนำหลังประชุมกันว่า ควรต้องให้ผู้โดยสารซึ่งบินจากจีนเข้าอียู แสดงผลตรวจโควิดว่าเป็นลบก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเครื่องบิน นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้ใช้มาตรการเพิ่มเติม เช่น ตรวจและแยกลำดับทางพันธุกรรมจากน้ำเสียบนเครื่องบินซึ่งเดินทางมาจากจีน และ ณ ท่าอากาศยานที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศขึ้นลง

คำแนะนำของ IPCR ซึ่งไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสาธารณสุข สอดคล้องกับคำแนะนำก่อนหน้านี้ของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เป็นองค์กรบริหารของอียู

ปัจจุบัน บางชาติสมาชิกสหภาพยุโรปอย่าง อิตาลี และสเปน ได้กำหนดมาตรการให้ผู้เดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดไปก่อนหน้านี้แล้ว และตั้งแต่วันพฤหัสฯ ฝรั่งเศสก็เริ่มบังคับใช้มาตรการอย่างเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์เพื่อการควบคุมโรคของยุโรป (ECDC) ซึ่งเป็นองค์การผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคติดต่อของอียู แถลงว่า ไม่แนะนำให้ใช้มาตรการจำกัดควบคุมนักเดินทางจากจีนในเวลานี้ เนื่องจากตัวกลายพันธุ์ต่างๆ ที่แพร่กระจายอยู่ในจีนนั้นต่างก็พบในอียูอยู่แล้ว

ECDC บอกด้วยว่า พลเมืองอียูมีระดับการฉีดวัคซีนป้องกันค่อนข้างสูง และศักยภาพที่เชื้อนำเข้าจากภายนอกจะมาระบาดก็ต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการติดเชื้อประจำวันภายในสหภาพยุโรปเอง ซึ่งระบบสาธารณสุขของอียูกำลังรับมืออยู่ในปัจจุบัน

ทางด้านจีนได้ออกมาตอบโต้ความเคลื่อนไหวและความคิดเห็นเหล่านี้ โดยระหว่างการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพฤหัสฯ (5) เหมา หนิง โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า สถานการณ์การระบาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ พร้อมยืนยันว่า จีนแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประชาคมนานาชาติอย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และรวดเร็วมาโดยตลอด และหวังว่า WHO จะรักษาจุดยืนที่อิงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ เป็นกลาง และปราศจากอคติ รวมทั้งพยายามแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์สำหรับการรับมือความท้าทายจากโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก

เหมายังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่ออกมาตรการจำกัดการเดินทางนักเดินทางจากจีน ให้เปลี่ยนมาเป็นร่วมมือกันเพื่อปกป้องการเดินทางปกติของผู้คน

ทั้งนี้ ต้นเดือนที่แล้ว จีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดหลังประชาชนออกมาประท้วงทั่วประเทศ ซึ่งเท่ากับเป็นการละทิ้งนโยบายที่เคยปกป้องประชาชน 1,4000 ล้านคนจากไวรัสตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดปักกิ่งประกาศว่า จะยกเลิกการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าประเทศนับจากวันอาทิตย์นี้ (8)

อเมริกาเป็นหนึ่งในกว่าสิบประเทศที่ใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกับนักเดินทางจากจีน ซึ่งปักกิ่งวิจารณ์ว่า มาตรการควบคุมพรมแดนดังกล่าวไม่เหมาะสมและไม่อิงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า จะเปิดพรมแดนกับฮ่องกงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่จะถึง

สายการบินโวยยังใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกันอีกทั้งที่ไม่ได้ผล

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธ วิลลี่ วอลช์ ผู้อำนวยการใหญ่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) แถลงว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังมากที่หลายประเทศฟื้นมาตรการจำกัดการเดินทางขึ้นมาอัตโนมัติโดยไม่ยั้งคิด ทั้งที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามาตรการเหล่านั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไร้ผล

ไออาต้าซึ่งเป็นตัวแทนสายการบิน 300 แห่งที่รองรับการเดินทางทางอากาศ 83% ทั่วโลก ยังตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ไวรัสโคโรนาระบาดกว้างขวางอยู่แล้วในประเทศที่ฟื้นมาตรการจำกัดการเดินทาง

วอลช์สำทับว่า การวิจัยที่จัดทำขึ้นหลังการอุบัติของสายพันธุ์โอมิครอนเมื่อปลายปี 2021 ได้ข้อสรุปว่า การปิดกั้นการเดินทางไม่ได้ทำให้เกิดผลใดๆ กับจุดสูงสุดในการระบาด นอกจากนี้ทั่วโลกยังมีเครื่องมือจัดการโควิดโดยไม่ต้องพึ่งมาตรการที่ไร้ประสิทธิภาพนี้ที่จะตัดความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ทำลายเศรษฐกิจและการจ้างงาน

อนึ่ง การเดินทางทั่วโลกที่หยุดสนิทจากการอุบัติของโควิด-19 ในปี 2020 ได้รับการคาดหมายว่า จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 70.6% ของระดับก่อนเกิดวิกฤตไวรัสในปี 2022 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านั้น เนื่องจากในปีที่ผ่านมาจีนยังคงควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวด

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น