xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งยัวะ ‘บางประเทศ’ พุ่งเป้าจำกัดนักเดินทางจากจีน ขณะสื่อรัฐอ้างผู้เชี่ยวชาญยัน ‘โควิด’ เวลานี้ระบาดเยอะแต่อาการไม่ร้ายแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนซื้อหาของกินจากแผงลอยข้างถนนในย่านชอปปิ้งแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) ขณะที่ประเทศจีนกลับเข้าสู่ช่วงวันทำงานภายหลังเทศกาลปีใหม่ โดยที่โรคโควิดยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางการบอกว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เวลานี้มีอาการไม่รุนแรง
จีนออกอาการยัวะ “บางประเทศ” เมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) ที่กำหนดข้อจำกัดเอากับนักเดินทางซึ่งออกมาจากแดนมังกร ระบุ “ไม่มีเหตุผล” “ขาดไร้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์” และปักกิ่งอาจทำการตอบโต้ ขณะเดียวกัน สื่อทางการจีนพยายามลดทอนน้ำหนักของกระแสข่าวที่ว่าโรคโควิดกำลังแพร่ระบาดอย่างร้ายแรงทั่วแผ่นดินมังกร โดยชี้ว่าระบาดหนัก แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง

หลังจากปักกิ่งกลับลำ “นโยบายโควิดเป็นศูนย์” อย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม รวมทั้งมีข้อระแวงสงสัยเกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตของจีน ได้มีบางชาติออกมาตรการข้อจำกัดสำหรับใช้กับผู้ที่เดินทางออกมาจากจีน

อเมริกา ญี่ปุ่น แคนาดา ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศกำหนดให้ผู้ที่เดินทางจากจีนต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบเมื่อเดินทางถึง ขณะที่เบลเยียมเผยว่า จะทดสอบน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อดูว่ามีไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์หรือไม่ ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหภาพยุโรป (อียู) ยังไม่มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นัดประชุมกันในวันพุธ (4) เพื่อหามาตรการรับมือร่วมกัน

ทางด้าน เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวประจำวันตามปกติเมื่อวันอังคาร (3) ว่า บางประเทศตั้งกฎจำกัดเกี่ยวกับการเข้าเมือง โดยพุ่งเป้าที่นักเดินทางที่มาจากจีน อันเป็นการกระทำที่ปราศจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และบางกรณีก็เป็นการปฏิบัติที่ยอมรับไม่ได้

“เรามีความปรารถนาที่จะปรับปรุงยกระดับการติดต่อสื่อสารกับโลก” เธอบอก “แต่ ... เราขอคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อความพยายามต่างๆ ที่จะฉวยใช้ประโยชน์จากการป้องกันโรคระบาดตลอดจนมาตรการควบคุมต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง และเราจะใช้มาตรการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ผิดแผกกันไป โดยสอดคล้องกับหลักการในเรื่องต่างตอบแทน”

สำหรับสถานการณ์โรคโควิดในจีนเวลานี้ พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบและสื่อจีนเองต่างยืนยันว่ามีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง

ที่เซี่ยงไฮ้ เฉิน เอ้อเจิน รองประธานของโรงพยาบาลรุ่ยจิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับท็อปแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งเป็นสมาชิกในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโควิดของเซี่ยงไฮ้ ประเมินว่า ขณะนี้ประชาชนราว 70% จากทั้งหมด 25 ล้านคนของมหานครแห่งนี้อาจติดโควิดแล้ว หรือมากกว่าช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 20-30 เท่า เขากล่าวเช่นนี้กับ ต้าเจียงตง สตูดิโอ ซึ่งเจ้าของคือ เหรินหมินรึเป้า หรือพีเพิลส์เดลี่ ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เฉินบอกด้วยว่า ที่โรงพยาบาลรุ่ยจิน มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวฉุกเฉินวันละ 1,600 คน โดย 80% เป็นผู้ป่วยโควิด และครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป

เซี่ยงไฮ้เคยอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นาน 2 เดือนนับจากเดือนเมษายนที่มีผู้ติดเชื้อ 600,000 คน แต่สำหรับขณะนี้ที่ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนกำลังระบาดทั่วเมือง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การระบาดจะถึงจุดรุนแรงที่สุดต้นปีนี้

ทางด้านนครใหญ่แห่งอื่นๆ เป็นต้นว่า ปักกิ่ง เทียนจิน ฉงชิ่ง และกว่างโจว พวกเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของจีนเสนอแนะว่า การระบาดได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

ส่วนที่มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งอยู่ติดกับเซี่ยงไฮ้ หน่วยงานควบคุมโรคเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ช่วงหลายวันมานี้อาจมีผู้ติดเชื้อถึง 1 ล้านคน และถึงจุดสูงสุดของการระบาดแล้ว

พวกเจ้าหน้าที่จีนบอกว่า เวลานี้กำลังเตรียมพร้อมรับมือการระบาดในพื้นที่ชนบทที่อยู่ห่างจากบริเวณชายฝั่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งขาดแคลนทรัพยากร ขณะที่ประชาชนนับร้อยๆ ล้านเตรียมออกเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นในวันที่ 21 เดือนนี้

เจียว เอียฮุย เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ให้สัมภาษณ์สถานีซีซีทีวีของทางการเมื่อวันจันทร์ (2) โดยยอมรับว่า การจัดการการระบาดที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดในพื้นที่ชนบทจะเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง และสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ประชาชนสามารถเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงตรุษจีนได้

อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า ฉบับวันอังคาร (9) ได้พยายามผ่อนคลายกระแสความกังวลด้วยการอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญในประเทศหลายคนที่กล่าวตรงกันว่า ผู้ติดโควิดส่วนใหญ่ในขณะนี้อาการไม่รุนแรง

เป็นต้นว่า ต่ง เจ้าฮุย รองประธานโรงพยาบาลปักกิ่งเฉาหยาง ระบุว่า ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและวิกฤตมีเพียง 3-4% ของผู้ป่วยโควิดทั้งหมดที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่กำหนดให้รับมือกับโรคนี้ในปักกิ่ง

ส่วน คัง เหยียน ประธานโรงพยาบาลเวสต์ ไชน่า เทียนฝู่ ของมหาวิทยาลัยเสฉวน เผยว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพียง 46 คนที่เข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยวิกฤต หรือ 1% ของผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ

ในอีกด้านหนึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนแบ่งปันข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและตามเวลาจริงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งเชิญนักวิจัยจีนไปร่วมนำเสนอข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับลำดับพันธุกรรมของไวรัสในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านเทคนิคในตอนบ่ายวันอังคาร ตามเวลาของเมืองเจนีวา ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ WHO รวมทั้งยังขอให้จีนแจ้งข้อมูลผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ฉีดวัคซีน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น