เกาหลีใต้ประกาศวันนี้ (30 ธ.ค.) ว่าผู้ที่เดินทางจากจีนจำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็น "ลบ" ทั้งก่อนและหลังเดินทางเข้าประเทศ เช่นเดียวกับอีกหลายชาติทั่วโลกที่ต่างกำหนดมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
นับตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ผู้ที่เดินทางจากจีนจะต้องแสดงผลตรวจ PCR เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง หรือผลตรวจ rapid antigen test ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง รวมถึงจะต้องเข้ารับการตรวจ PCR อีกครั้งเมื่อเดินทางไปถึงเกาหลีใต้ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.
นายกรัฐมนตรี ฮัน ดักซู แห่งเกาหลีใต้ ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจะจำกัดการออกวีซ่าระยะสั้นสำหรับพลเมืองจีนไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. และไม่อนุญาตให้มีการเพิ่มเที่ยวบินจากจีนชั่วคราว ขณะที่เที่ยวบินจากจีนทั้งหมดจะต้องมาลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่า มาตรการคุมเข้มเหล่านี้คือสิ่งจำเป็น หลังจากที่ปักกิ่งยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์และหยุดรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน ซึ่งทำให้นานาชาติหวั่นวิตกว่าจะเกิดการระบาดระลอกใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงที่เชื้อจะ “กลายพันธุ์” รุนแรงขึ้น
แม้มาตรการส่วนใหญ่ที่เกาหลีใต้ประกาศจะมีผลถึงแค่สิ้นเดือน ก.พ. ทว่าสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ระบุว่าอาจจะ “ขยายเวลา” ออกไปได้อีก
ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งปรับมาตรการควบคุมโรคอย่างกะทันหัน ส่งผลให้นานาชาติ เช่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน ออกมาทยอยประกาศบังคับตรวจเชื้อนักท่องเที่ยวจีน
ล่าสุด สื่อทางการจีนได้ออกมาวิจารณ์ข้อจำกัดที่หลายประเทศนำมาบังคับใช้กับผู้เดินทางจากจีนว่าเป็นการ “เลือกปฏิบัติ” (discriminatory)
“เจตนาที่แท้จริงของพวกเขาก็คือการบ่อนทำลายความพยายามในการควบคุมโควิด-19 ที่จีนใช้มาตลอด 3 ปี และโจมตีระบบของจีน” หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สซึ่งเป็นสื่อแท็บลอยด์ในเครือพีเพิลส์เดลี ระบุในบทความที่เผยแพร่เมื่อค่ำวานนี้ (29) พร้อมชี้ว่ามาตรการคุมเข้มที่หลายชาติกำหนดขึ้น “ไร้พื้นฐานรองรับ” และเป็นการ “เลือกปฏิบัติ” ต่อคนจีน
ที่มา : รอยเตอร์