หน่วยงานด้านการแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร ออกมาเตือนในวันจันทร์ (2 ม.ค.) คนไข้จำนวนมากกำลังเสียชีวิตในแต่ละสัปดาห์ เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเพียงพอ พร้อมเรียกร้องรัฐบาลให้ลงมือจัดการ ในขณะที่ระบบบริการสาธารณสุขของประเทศเผชิญกับวิกฤตการผละงานประท้วงช่วงฤดูหนาว และอุปสงค์การรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น
ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service หรือ NHS) เผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณมานานกว่า 1 ทศวรรษ ก่อนที่โรคระบาดใหญ่โควิด-19 จะผลักให้มันตกอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรง
จากข้อมูลพบว่าคนไข้ 1 รายในทุกๆ 5 คนในอังกฤษ ที่ต้องพึ่งบริการรถฉุกเฉินนำตัวส่งโรงพยาบาลในสัปดาห์ที่แล้ว ต้องใช้เวลานานมากกว่า 1 ชั่วโมง ในการส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ขณะที่ผู้ป่วยอีกหลายหมื่นคนต้องรอนานกว่า 12 ชั่วโมง ก่อนได้รับการรักษา
ราชวิทยาลัยการแพทย์ฉุกเฉินแห่งสหราชอาณาจักร เปิดเผยในวันอาทิตย์ (1 ม.ค.) คาดว่าจะมีคนไข้ราว 300 ถึง 500 รายเสียชีวิตในห้องฉุกเฉินในแต่ละสัปดาห์ สืบเนื่องจากต้องใช้เวลารอคอยการรักษาเป็นเวลานาน
รองประธานของราชวิทยาลัยการแพทย์ฉุกเฉินแห่งสหราชอาณาจักร เน้นย้ำการคาดการณ์ดังกล่าวในวันจันทร์ (2 ม.ค.) พร้อมปฏิเสธข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางส่วน ที่เชื่อว่ามันมีบ่อเกิดจากปัจจัยระยะสั้น
"ถ้าคุณอยู่ในด่านหน้า คุณจะรู้ว่านี่คือปัญหาที่มีมานานแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เรากำลังเห็นนี้เกิดขึ้นในทุกๆ ฤดูหนาว และดูเหมือนว่ามันยังคงสร้างความประหลาดใจได้ตลอด" เอียน ฮิกกินสัน ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุบีบีซี
สมาคมการแพทย์แแห่งสหราชอาณาจักร (BMA) ในวันจันทร์ (2 ม.ค.) เรียกสถานการณ์ปัจจุบันว่า "ไม่อาจอดทนได้และไร้ความยั่งยืน" ในขณะที่ทางระบบบริการสุขภาพแห่งชาติต้องรับมือกับอุปสงค์ที่สูงลิ่ว และบอกว่ารัฐบาลต้องลงมือจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
"มันไม่เป็นความจริงที่ประเทศแห่งนี้ไม่สามารถทุ่มทุนใช้จ่ายเพื่อคลี่คลายสภาพยุ่งเหยิงนี้ มันคือทางเลือกทางการเมือง และคนไข้กำลังตายโดยไม่จำเป็น สืบเนื่องจากทางเลือกดังกล่าว" ฟิล แบนฟิลก์ ประธานสภาสมาคมการแพทย์แแห่งสหราชอาณาจักรกล่าว
รัฐบาลให้เหตุผลสถานการณ์ความตึงเครียดที่ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติกำลังเผชิญ ว่าเป็นผลกระทบของโรคระบาดใหญ่และอาการป่วยตามฤดูกาล อย่างเช่นไข้หวัด
ริซี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุระหว่างส่งสารอวยพรปีใหม่ บอกว่ารัฐบาลของเขาได้ใช้มาตรการที่แน่วแน่และระดมทรัพยากรครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดการกับงานค้างของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติและแรงกดดันด้านบุคลากร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลได้เปิดตัวนโยบายประหยัดงบประมาณ และปฏิเสธปรับขึ้นเงินเดือนตามข้อเรียกร้องของเหล่าพยาบาล แม้ภาวะเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรพุ่งแตะระดับเหนือ 10% มานานหลายเดือน
คำเตือนเกี่ยวกับภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากบรรดาพยาบาลทั่วประเทศทำการผละงานประท้วงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหภาพแรงงานพยาบาลเมื่อเดือนที่แล้ว
(ที่มา : เอเอฟพี)