สหรัฐฯ ฮึ่มใส่! กังวลความเคลื่อนไหวจีนรอบไต้หวัน กร้าวเดินหน้าช่วยไทเปปกป้องตนเอง

สหรัฐฯ มีความกังวลต่อการซ้อมรบครั้งใหญ่ของปักกิ่งในช่องแคบไต้หวัน เจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวรายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) พร้อมยืนยันวอชิงตันใส่ใจต่อการคงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และจะเดินหน้าให้การสนับสนุนไต้หวันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านป้องกันตนเอง

ความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้เกาะปกครองตนเอง "กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพ เสี่ยงคำนวณผิดพลาดและบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามให้สัมภาษณ์กับเอพี เอ่ยถึงความเคลื่อนไหวของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ที่เปิดการซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ในพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งปักกิ่งเรียกมันว่าเป็นการตอบโต้พฤติกรรมยั่วยุของไทเปและวอชิงตัน

ก่อนหน้านี้ จีนจัดการซ้อมรบรอบๆ ไต้หวันในเดือนสิงหาคม ตามหลังการเดินทางเยือนเกาะแห่งนี้ของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น และในวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ปักกิ่งประณามอเมริกาต่อกฎหมายให้อำนาจป้องกันประเทศ (National Defense Authorization Act : NDAA) ซึ่งเป็นกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีบทบัญญัติสำคัญๆ รวมถึงการเพิ่มความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ไต้หวัน

ในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ไต้หวันอ้างว่า จีนส่งอากาศยาน 71 ลำ ซึ่งมีทั้งเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ เครื่องบินสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และโดรนสอดแนม เข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) และพบเห็นเรือของกองทัพเรือจีน 7 ลำ ล่องใกล้เกาะ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นับเป็นจำนวนมากสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นภายในวันเดียว

กองทัพจีนเรียกความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็น "การซ้อมรบโจมตีร่วม" และบอกว่ามันเป็นการตอบโต้อย่างแน่วแน่ต่อการสมคบคิดในพื้นที่นี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในกฎหมายให้อำนาจป้องกันประเทศ สำหรับปีงบประมาณ 2023 ร่างงบประมาณที่จะเปิดทางมอบเงินช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์แก่ไต้หวัน ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

เจ้าหน้าที่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ เน้นย้ำในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ว่าสหรัฐฯ ยึดถือผลประโยชน์ในสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน พร้อมระบุว่า "อเมริกาจะเดินหน้าให้ความช่วยเหลือไต้หวัน ในการธำรงไว้ซึ่งศักยภาพที่พอเพียงสำหรับป้องกันตนเอง ตามกรอบคำสัญญาที่สหรัฐฯ รับปากมาช้านานและสอดคล้องกับนโยบายจีนเดียวของเรา"

สหรัฐฯ เป็นผู้จัดหาอาวุธและเป็นผู้สนับสนุนระหว่างประเทศรายสำคัญที่สุดของไต้หวัน แม้ทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างกัน ทั้งนี้ การที่สหรัฐฯ ขายอาวุธแก่ไต้หวัน เป็นบ่อเกิดแห่งความระคายเคืองในความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันมาช้านาน

กองทัพไต้หวันถือว่ามีขนาดเล็กจิ๋วมากเมื่อเทียบกับกองทัพขาดมโหฬารของจีน ขณะที่กองทัพอากาศของพวกเขาตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดอย่างหนัก จากการที่ได้เห็นฝูงบินรบของจีนล่วงล้ำเข้ามาใกล้เกาะแห่งนี้บ่อยครั้ง

จีนไม่เคยปฏิเสธเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการใช้กำลังรวมชาติไต้หวัน ส่วนไต้หวันโต้แย้งอย่างแข็งกร้าวต่อคำกล่าวอ้างอำนาจอธิปไตยของปักกิ่ง โดยบอกว่ามีเพียงประชาชน 23 ล้านคนของเกาะแห่งนี้เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง

ทั้งนี้ จีนใช้มาตรการกดดันทั้งทางการทูต การทหาร และเศรษฐกิจต่อไต้หวันหนักขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยหวังให้ไทเปยอมสยบอยู่ภายใต้การปกครองของปักกิ่ง ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ยืนยันว่าไต้หวันต้องการสันติภาพ แต่ก็พร้อมจะปกป้องตนเองอย่างถึงที่สุดหากถูกจีนโจมตี

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/เอพี)