xs
xsm
sm
md
lg

แฮกเกอร์เกาหลีเหนือปล้น ‘เงินคริปโตฯ’ กว่า $1,200 ล้านในระยะเวลา 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เผยหน่วยปฏิบัติการแฮกเกอร์ของเกาหลีเหนือสามารถขโมยเงินคริปโตฯ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ รวมเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 41,600 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยกว่าครึ่งเป็นทรัพย์สินที่ปล้นได้ในปีนี้

ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ระบุว่า เกาหลีเหนือหันมาใช้วิธีแฮกคริปโตฯ และก่ออาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบอื่นๆ เพื่อแสวงหาเงินตราต่างประเทศมาใช้สนับสนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ หลังจากที่ถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตรอย่างหนัก และยังต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจจากผลพวงของโควิด-19 ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (22 ธ.ค.) ว่า ศักยภาพของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือในการขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจัดว่าเป็น “มือฉมัง” เป็นอันดับต้นๆ ของโลก เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้เรื่อยมานับตั้งแต่ยูเอ็นยกระดับคว่ำบาตรเมื่อปี 2017

คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นมีมติในช่วงปี 2016-2017 แบนการส่งออกสินค้าหลักๆ ของเกาหลีเหนือ เช่น ถ่านหิน สิ่งทอ และอาหารทะเล และยังผลักดันให้รัฐสมาชิกยูเอ็นส่งแรงงานโสมแดงกลับประเทศด้วย

การอุบัติขึ้นของโควิด-19 ในจีนยังทำให้เกาหลีเหนือต้องใช้มาตรการปิดพรมแดนเข้มงวดเพื่อป้องกันการระบาดในประเทศ แต่นั่นก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจให้ย่ำแย่หนักเข้าไปใหญ่

NIS ประเมินว่า ทีมแฮกเกอร์ที่รัฐบาลเกาหลีเหนือให้การสนับสนุนปล้นสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกไปแล้วราวๆ 1.5 ล้านล้านวอน หรือกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2017 โดยเป็นสินทรัพย์ที่ปล้นได้ในปีนี้ 800,000 ล้านวอน และเป็นทรัพย์สินที่ปล้นจากเกาหลีใต้มากกว่า 100,000 ล้านวอน

NIS เชื่อว่าแฮกเกอร์โสมแดงจะยกระดับการโจมตีทางไซเบอร์ในปี 2023 เพื่อขโมยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า รวมไปถึงข้อมูลลับเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของเกาหลีใต้

นักการทูตระดับอาวุโสของสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ลงมติเห็นพ้องกันในเดือนนี้ว่าจะร่วมกันยกระดับสกัดกั้นกิจกรรมทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นเคยออกมาเตือนเมื่อเดือน ก.พ. ว่า เปียงยางยังคงขโมยเงิน “หลายร้อยล้านดอลลาร์” ออกไปจากสถาบันการเงินและบริษัทคริปโตฯ ต่างๆ

เกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธแบบถี่ยิบในปี 2022 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นความพยายามที่จะพัฒนาปรับปรุงคลังแสงให้ทันสมัยเพื่อใช้ต่อรองให้พวกชาติมหาอำนาจยอมผ่อนคลายคว่ำบาตร

ที่มา : AP
กำลังโหลดความคิดเห็น