แซม แบงก์แมน-ฟรีด (Sam Bankman-Fried) ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอกระดานเทรดคริปโตฯ FTX ถูกส่งตัวไปขึ้นศาลสหรัฐฯ และได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 250 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 8,700 ล้านบาท เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) ขณะที่อัยการออกมาเรียกพฤติกรรมยักยอกเงินอันนำมาสู่การล่มสลายของ FTX ว่าเป็น “การฉ้อโกงระดับมหากาพย์”
อัยการกลางเขตแมนฮัตตันกล่าวหา แบงก์แมน-ฟรีด ว่าขโมยเงินทุนลูกค้าหลายพันล้านดอลลาร์ไปโปะความเสียหายของบริษัทคริปโตฯ เฮดจ์ฟันด์ Alameda Research ที่เขาเป็นเจ้าของ
แบงก์แมน-ฟรีด เคยออกมายอมรับว่า FTX บริหารความเสี่ยงผิดพลาดจริง แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกงและไม่มีความจำเป็นต้องรับผิดใดๆ รวมถึงไม่ทราบเรื่องที่เงินทุนลูกค้า FTX ถูกนำไปมั่วกับเงินทุนของ Alameda ด้วย ขณะที่ มาร์ก โคเฮน ทนายความของเขาก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนของศาลเมื่อวานนี้ (22)
ผู้พิพากษา แกเบรียล โกเรนสไตน์ ได้อนุญาตให้ประกันตัว แบงก์แมน-ฟรีด ด้วยวงเงิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 3 ม.ค. พร้อมกับตั้งเงื่อนไขให้อดีตซีอีโอ FTX ต้องถูกริบหนังสือเดินทาง ถูกควบคุมตัวภายในบ้านพักของบิดามารดาที่เมือง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย และยังต้องเข้ารับการตรวจประเมินสภาพจิตเป็นระยะๆ ด้วย
ผู้พิพากษายังให้เหตุผลว่า คดี FTX อื้อฉาวมากเสียจน “เป็นไปไม่ได้เลย” ที่ แบงก์แมน-ฟรีด จะวางแผนฉ้อโกงทางการเงินเพิ่มเติม หรือหนีไปหลบซ่อนตัวโดยไม่มีผู้คนจำได้
นักธุรกิจหนุ่มมาดเซอร์วัย 30 ปีรายนี้ก่อตั้ง FTX ขึ้นเมื่อปี 2019 ขณะที่กระแสความบูมของบิตคอยน์และทรัพย์สินดิจิทัลทำให้ FTX เคยมีมูลค่าทางทางการตลาดสูงกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์เมื่อช่วงต้นปีนี้ ส่วนตัว แบงก์แมน-ฟรีด ซึ่งเรียนจบจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ก็ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีระดับพันล้าน และกลายเป็นหนึ่งในผู้บริจาคสนับสนุนพรรคการเมืองที่ทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ
นิโคลัส รูส อัยการเขตแมนฮัตตัน ระบุว่า ถึงแม้ แบงก์แมน-ฟรีด จะกระทำการฉ้อโกงในระดับมหากาพย์ ทว่าเขาไม่เคยมีประวัติหลบหนีคดี อีกทั้งทรัพย์สินส่วนตัวก็หดหายลงไปมาก
เขาถูกตำรวจบาฮามาสบุกจับกุมที่บ้านพักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ควบคุมตัวมาสหรัฐฯ เมื่อคืนวันพุธ (21)
ทนายระบุว่า พ่อแม่ของ แบงก์แมน-ฟรีด ซึ่งเป็นอาจารย์สอนกฎหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยอมใช้ “บ้าน” ของตนเองค้ำประกันอิสรภาพของบุตรชาย ซึ่งหมายความว่าหาก แบงก์แมน-ฟรีด หลบหนี รัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะสามารถยึดทรัพย์สินของครอบครัวเขาในมูลค่าสูงสุด 250 ล้านดอลลาร์ รวมถึงบ้านที่ Palo Alto ด้วย
แบงก์แมน-ฟรีด เคยกล่าวในเวทีเสวนาที่จัดโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า เขาเหลือเงินอยู่ในบัญชีแค่ “100,000 ดอลลาร์” หลังจากที่ FTX ยื่นล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ ในวันที่ 11 พ.ย.
ที่มา : รอยเตอร์