หลังครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรครีพับลิกันประกาศกร้าวในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) การสืบสวนเกี่ยวกับธุรกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และครอบครัว จะมีความสำคัญสูงสุดในการตรวจสอบของพวกเขา ครั้งที่ก้าวเข้าควบคุมอำนาจอย่างเป็นทางการในปีหน้า
เจมส์ โคเมอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเคนทักกี ของพรรครีพับกัน ซึ่งคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นเป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบและปฏิรูปของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมาธิการจะสืบสวนรายงานของธนาคารและคำกล่าวอ้างต่างๆ ของผู้เปิดโปงไม่ประสงค์เอ่ยนาม ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวประธานาธิบดีกับกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของลูกชายของเขา ฮันเตอร์ ไบเดน นักธุรกิจวัย 52 ปี
"ผมขอพูดให้ชัดเจนว่า นี่คือการสืบสวนไบเดน มันเป็นการสืบสวนที่ทางคณะกรรมาธิการะจะมุ่งเน้นในสภาคองเกรสชุดหน้า" โคเมอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าว "คณะกรรมาธิการนี้จะประเมินสถานะความสัมพันธ์ของโจ ไบเดน กับพวกพันธมิตรต่างชาติของครอบครัวของเขา และประเมินว่าเขารอมชอมหรือถูกครอบงำโดยดอลลาร์จากต่างชาติและอิทธิพลของต่างชาติหรือไม่" โคเมอร์ระบุ พร้อมเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการได้มาซึ่งรายงานของธนาคารเกี่ยวกับกิจกรรมต้องสงสัยแล้ว
ทำเนียบขาวรุดออกถ้อยแถลง กล่าวหาสมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร กำลังวางแผนไล่ล่า ไบเดน ด้วยการโจมตีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยทฤษฎีสมคบคิดที่กล่าวอ้างผิดต่างๆ
"ประธานาธิบดี จะไม่ปล่อยให้การโจมตีทางการเมืองเหล่านี้หันเหความสนใจของเขาไปจากการมุ่งเน้นไปที่ลำดับความสำคัญต่างๆ ของชาวอเมริกา" ถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดย เอียน แซมส์ โฆษกสำนักข่าวที่ปรึกษาของทำเนียบขาว
เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่ ฮันเตอร์ ไบเดน ตกเป็นเป้าโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อนจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพันธมิตรในพรรครีพับลิกันของเขา ซึ่งกล่าวหา ฮันเตอร์ ไบเดน พัวพันกับการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและจีน เช่นเดียวกับประเด็นอื่นๆ นอกจากนี้ เขายังเคยเปิดเผยมรสุมชีวิตในอดีตต่อสาธารณะเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด และชีวิตการทำงานในฐานะล็อบบี้ยิสต์ ทนายความ นายธนาคารเพื่อการลงทุน และศิลปิน
ฮันเตอร์ ไบเดน เปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ในเดือนธันวาคม 2020 ครั้งที่อัยการกลางในเดลาแวร์ กำลังสืบสวนเขาเกี่ยวกับประวัติการชำระและขอคืนเงินภาษีของเขา แต่สุดท้ายคณะอัยการไม่ได้ดำเนินคดีข้อหาทางอาญาใดๆ ในขณะที่ตัวเขาเองยืนกรานว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
ทั้งนี้ ฮันเตอร์ ไบเดน ไม่เคยมีตำแหน่งในทำเนียบขาว หรือในทีมหาเสียงของผู้เป็นพ่อ ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดน บอกว่าเขาไม่เคยพูดคุยกับลูกชาย ในเรื่องการต่อรองทางธุรกิจกับต่างชาติ และยืนยันว่าทางกระทรวงยุติธรรมจะมีอิสระในการสืบสวนต่อสมาชิกคนหนึ่งคนใดของครอบครัวของเขา
การตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่มีรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะเริ่มขึ้นในปีหน้า ในขณะที่ปฏิทินการเมืองของสหรัฐฯ จะมุ่งหน้าสู่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ซึ่งปัจจุบัน ไบเดน ยังคงมีท่าทีอยากลงรับสมัครกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย
สมาชิกรีพับลิกันมากกว่า 10 คนในสภาผู้แทนราษฎร ออกมายืนเคียงข้าง โคเมอร์ ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (16 พ.ย.) หลายคนในนั้นเป็นพันธมิตรตัวยงของทรัมป์ ซึ่งเมื่อวันอังคาร (15 พ.ย.) เพิ่งประกาศตัวลงลุ้นเป็นตัวแทนพรรค ชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวปี 2024
รีพับลิกันวางกรอบการสืบสวนที่กำลังเกิดขึ้น บนเงื่อนไขที่ว่ามันเทียบเท่ากับคำกล่าวหาที่ทางเดโมแครตเคยใช้เล่นงาน ทรัมป์ ครั้งที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยหนนั้นพรรคเดโมแครต เปิดการสืบสวนเกี่ยวกับการติดต่อทางธุรกิจของทรัมป์ และครอบครัว
ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอนโดยสภาคองเกรสถึง 2 ครั้ง หนหนึ่งตามคำกล่าวอ้างกดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน สืบสวนไบเดน และลูกชายของเขา ก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 และอีกหนเกี่ยวกับเหตุจู่โจมอาคารรัฐสภาของพวกผู้สนับสนุนเขา ในวันที่ 6 มกราคม 2021
อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาสหรัฐฯ ที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากลงมติให้ ทรัมป์ พ้นจากข้อกล่าวหาในกระบวนการพิจารณาถอดถอนเขาทั้ง 2 ครั้ง
(ที่มา : รอยเตอร์)