ยูเครนเผยเริ่มได้รับระบบต่อสู้อากาศยานใหม่ๆ จากพันธมิตรตะวันตกแล้ว อย่างไรก็ดี เวลานี้มีคำถามสำคัญกว่านั้นปรากฏขึ้นมาว่า อเมริกาจะยังให้การสนับสนุนเคียฟต่อไปหรือไม่อย่างไรภายหลังการเลือกตั้งกลางเทอมในวันอังคาร (8 พ.ย.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากพรรครีพับลิกันที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะได้ครองสภาล่างหรืออาจรวมถึงวุฒิสภาด้วยนั้น แสดงความกังวลโจ่งแจ้งเกี่ยวกับเงินที่ใช้จ่ายไปกับเคียฟ
พวกโครงสร้างพื้นฐานของกรุงเคียฟถูกรัสเซียถล่มในทุกวันแรกของสัปดาห์มาเกือบเดือน กระนั้น วันจันทร์ที่ผ่านมา (7) เสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศเงียบหายไปและประชาชนออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้บ้าง
วันเดียวกันนั้น โอเลคซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ประกาศว่า ประเทศของเขาได้รับระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นดินสู่อากาศขั้นสูงแห่งชาติ หรือ NASAM จากสหรัฐฯ และระบบป้องกันภัยทางอากาศแอสไพด์ของอิตาลี เพิ่มเติมจากระบบอาวุธที่ได้รับจากเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม ข่าวดีนี้มีขึ้นขณะที่หลายฝ่ายกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับการสนับสนุนยูเครนของอเมริกา ภายหลังการเลือกตั้งกลางสมัย
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันที่พวกนักวิเคราะห์คาดว่า จะได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งอาจได้ที่นั่งเกินครึ่งในวุฒิสภาด้วยนั้น แสดงความกังวลกับระดับการใช้จ่ายที่ให้ยูเครน ถึงแม้ทำเนียบขาวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามปลอบขวัญว่า จะสนับสนุนเคียฟต่อไปไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ตาม
“เรามีความเชื่อมั่นว่าความสนับสนุนของสหรัฐฯ จะมั่นคงแน่วแน่ และจะไม่มีการโอนเอนไปมา” เลขานุการฝ่ายสื่อของทำเนียบขาว คารีน ฌอง-ปีแอร์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว
ทว่า เควิน แมคคาร์ธี ซึ่งจะขึ้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ถ้ารีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในการเลือกตั้งกลางเทอม กล่าวเตือนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า หากพรรคของเขาเข้ารับผิดชอบแล้ว จะไม่มีการจ่าย “เช็คเปล่า” ให้ยูเครนกรอกจำนวนเงินตามใจอีกต่อไป
เท่าที่ผ่านมา การที่ยูเครนสู้รบต่อต้านการรุกรานของรัสเซียนั้นได้รับความสนับสนุนจากฐานเสียงจำนวนมากของฝ่ายรีพับลิกันด้วย ถึงแม้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายขวาแข็งกร้าวหลายรายซึ่งใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ตามที
ชาวรีพับลิกันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทรัมป์บางราย กล่าวโจมตีระดับความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ให้แก่ยูเครน ซึ่งครอบคลุมถึงจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์ที่ได้รับอนุมัติโดยผ่านการเห็นชอบจากทั้ง 2 พรรคเมื่อเดือนพฤษภาคม และไบเดนกำลังขอเพิ่มอีกก้อนหนึ่งมูลค่า 11,200 ล้านดอลลาร์
ทว่า ส.ว.มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำของรีพับลิกันในวุฒิสภา ประกาศลั่นว่าจะหนุนหลัง ไบเดน และการส่งอาวุธให้ยูเครนแบบฟาสต์แทร็ก
การที่รัสเซียมุ่งโจมตีพวกโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านไฟฟ้าและประปาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ไฟดับเป็นวงกว้าง และทางการยูเครนจำกัดการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ
ในวันจันทร์ (7) รัฐบาลยูเครนยังประกาศใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก เข้ายึดหุ้นในบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่ง และบริษัทยุทธศาสตร์อื่นๆ อีก 4 แห่ง จากมหาเศรษฐีบางรายของประเทศ เพื่อรับประกันว่ากองทัพของเคียฟจะมีซัปพลายต่างๆ อย่างพอเพียงในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
บริษัทเหล่านี้ รวมถึงมอเตอร์ ซิช ผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ที่ดำเนินการอยู่ในแคว้นซาโปริซเซียที่รัสเซียยึดครองพื้นที่บางส่วน และยูครานาฟตา บริษัทน้ำมันและก๊าซ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี บอกว่าความเคลื่อนไหวนี้มีความจำเป็นเพื่อรองรับความต้องการเร่งด่วนของภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในช่วงระหว่างสงคราม ขณะเดียวกัน นี่เป็นการเข้าแทรกแซงธุรกิจขนาดใหญ่ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดของรัฐบาลยูเครนในช่วงเวลาสงคราม โดยแตะต้องบริษัทต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับบรรดามหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะทำงานของเซเลนสกีต้องการควบคุมมาช้านาน
ในส่วนของความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงครามคราวนี้ ปรากฏว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐฯ อย่าง วอลล์สตรีทเจอร์นัลเสนอข่าวว่า เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯ มีการหารือลับๆ กับพวกเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัสเซีย เพื่อลดความเสี่ยงที่สงครามจะบานปลายออกนอกยูเครน เมื่อถูกสอบถามถึงเรื่องนี้ ทำเนียบขาวก็ไม่ได้ปฏิเสธข่าว แม้ยืนยันว่าจะยังสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนั้น วอชิงตันโพสต์รายงานว่า สหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้ยูเครนส่งสัญญาณมีความพร้อมเจรจาสันติภาพ เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก
ทางด้าน มิกไคโล โปโดลแยค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ได้ออกมากล่าวแสดงท่าทีว่า เคียฟพร้อมเจรจากับผู้นำในอนาคตของรัสเซีย แต่ไม่ใช่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พร้อมกับสำทับว่า ยูเครนไม่เคยปฏิเสธการเจรจา แต่รัสเซียต้องถอนกำลังออกไปก่อน
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)
