เซเลนสกีไม่สนหน้าไหน! สั่งยึดหุ้นบริษัทพวกมหาเศรษฐี ระดมทรัพยากรสู้รบรัสเซีย

ยูเครนในวันจันทร์ (7 พ.ย.) ใช้กฎหมายช่วงเวลาสงคราม เข้ายึดหุ้นในบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่ง และบริษัทยุทธศาสตร์อื่นๆ อีก 4 แห่ง จากมหาเศรษฐีบางรายของประเทศ เพื่อรับประกันว่ากองทัพของเคียฟจะมีเสบียงอย่างพอเพียง ในความพยายามปัดเป่าการรุกรานของรัสเซีย

ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลยูเครนใช้กฎอัยการศึกสำหรับความเคลื่อนไหวหนึ่งๆ นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี บอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อรองรับความต้องการเร่งด่วนของภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในช่วงระหว่างสงคราม

มันยังเป็นความเคลื่อนไหวแทรกแซงธุรกิจขนาดใหญ่ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดของรัฐบาลยูเครนในช่วงเวลาสงคราม แตะต้องบริษัทต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับบรรดามหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลาย อำนาจทางการเมืองที่คณะทำงานของเซเลนสกีต้องการควบคุมมาช้านาน

การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นในที่ประชุมของบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของประเทศ โดยมีเซเลนสกีนั่งเป็นประธานในวันเสาร์ (5 พ.ย.) และมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (6 พ.ย.) กำหนดให้หุ้นที่ถือครองโดยเอกราชอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงกลาโหม

บริษัทต่างๆ เหล่านั้น รวมไปถึง Motor Sich บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ บริษัทพลังงาน Ukrnafta และ Ukrtatnafta บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ AvtoKrAZ และ Zaporizhtransformator บริษัทผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า

"มาตการดังกล่าว ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับประเทศของเราในเงื่อนไขของสงคราม เป็นการดำเนินการสอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบันและจะช่วยรองรับความต้องการเร่งด่วนของภาคกลาโหมของเรา" เซเลนสกีเขียนบนเทเลแกรม "ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ เราต้องบัญชาทุกสรรพกำลังของเราให้ปลดปล่อยดินแดนและประชาชนของเรา ให้สนับสนุนกองทัพยูเครน"

เบื้องต้นทั้ง 5 บริษัทยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำสั่งดังกล่าว

บรรดาบริษัทเหล่านี้มีถือหุ้นบางส่วนโดยภาครัฐและมีความเกี่ยวข้องกับเหล่านักธุรกิจทรงอิทธิพลทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงมหาเศรษฐี อิฮอร์ โคโลมอยสกี และคอสเตียนติน เชวาโฮ เช่นเดียวกับนักธุรกิจ ยาเชสลาฟ โบฮูสลาเยฟ ซึ่งถูกควบคุมตัววในเดือนตุลาคม ฐานต้องสงสัยร่วมมือกับรัสเซีย

คำแถลงเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันของ โอเลคซีย์ ดานิลอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โอเลกซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหม และนายกรัฐมนตรีเดนีส ชมีฮาล คณะบุคคลระดับสูงที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเรื่องที่อ่อนไหวอย่างมาก

"มันไม่ใช่การโอนเป็นของรัฐ แต่มันคำสั่งเข้าควบคุมสินทรัพย์ระหว่างสงคราม มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแง่ของกฎหมาย" เรซนิคอฟ กล่าว ส่วน ดานิลอฟ เสริมว่า "เมื่อกฎอัยการศึกสิ้นสุดลง ทรัพย์สินเหล่านั้นสามารถคืนสู่เจ้าของหรือจ่ายชดเชยในมูลค่าที่เหมาะสม"

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนหุ้นที่เข้ายึด และเมื่อถูกถามว่าจะมีหุ้นของบริษัทอื่นๆ ถูกยึดอีกหรือไม่ ทาง เรซนิคอฟ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ส่วน ดานิลอฟ ตอบว่า "มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีอิทธิพลต่อสถานะของประเทศของเรามากน้อยแค่ไหน"

(ที่มา : รอยเตอร์/อัลจาซีราห์)