หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ระบุไม่พบสัญญาณกิจกรรมทางนิวเคลียร์ลับ ณ ที่ตั้ง 3 แห่งในยูเครน ซึ่งพวกเขาเข้าตรวจสอบตามคำร้องขอของเคียฟ เพื่อตอบโต้คำกล่าวหาของรัสเซียที่อ้างว่ายูเครนกำลังเตรียมการใช้ เดอร์ตีบอมบ์ (dirty bomb) หรือระเบิดกัมมันตรังสี
รัสเซียกล่าวหายูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่า ยูเครนมีแผนใช้ระเบิดชนิดนี้ ซึ่งเป็นระเบิดธรรมดาที่เจือด้วยวัสดุกัมมันตภาพรังสี และอ้างว่าสถาบันต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ เกี่ยวข้องกับการเตรียมการดังกล่าว แต่มอสโกไม่ได้นำเสนอหลักฐานใดๆ ส่วนทางรัฐบาลยูเครนปฏิเสธคำกล่าวหาอย่างแข็งกร้าว
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยกย่องผลสรุปของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) โดยกล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอ ว่า "สิ่งสกปรกเดียว (dirty) ในดินแดนของเราในเวลานี้คือพวกผู้นำในมอสโก ที่ยึดครองควบคุมรัฐรัสเซีย และกำลังคุกคามยูเครนและทั่วโลก"
เจ้าหน้าที่ยูเครนและตะวันตกบางส่วนกล่าวหามอสโกจัดฉากข้อกล่าวหานี้ขึ้นมา เพื่ออำพรางการจุดชนวนระเบิดกัมมันตรังสีของตนเอง แล้วกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของเคียฟ
ถ้อยแถลงของทบวงปรมาณูระหว่างประเทศที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียนนา ระบุว่า "ไม่กี่วันที่ผ่านมา คณะผู้ตรวจสอบสามารถดำเนินการทุกอย่างตามแผนของไอเออีเอ และได้รับอนุญาตเข้าถึงที่ตั้งต่างๆ โดยไม่ถูกขัดขวาง"
"จากการประเมินผลการตรวจสอบที่พอจะมีอยู่ในตอนนี้และจากข้อมูลที่มอบให้โดยยูเครน ทางหน่วยงานไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆ ของกิจกรรมนิวเคลียร์ที่ไม่แจ้งและวัสดุนิวเคลียร์ตามสถานที่เหล่านั้น" ไอเออีเอระบุ
ไอเออีเอเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า จะเข้าตรวจสอบที่ตั้ง 2 แห่งในยูเครน ตามหลังมีคำร้องขอมาจากเคียฟ และในวันจันทร์ (31 ต.ค) พวกเขาบอกว่าการตรวจสอบเหล่านั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว และในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติแห่งนี้ เผยว่าเสร็จสิ้นการตรวจสอบที่ตั้งทั้ง 3 แห่งแล้ว เกินกว่าที่บอกก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดถูกพาดพิงโดยรัสเซีย
ที่ตั้งที่ 3 ที่ทางไอเออีเอเอ่ยชื่อประกอบด้วย สถาบันวิจัยนิวเคลียร์ในกรุงเคียฟ โรงงานเหมืองและแปรรูปอิสเทิร์นในเมืองซอฟติ โคดี และโรงงานสร้างเครื่องจักรแห่งหนึ่งในดนิโปร
ถ้อยแถลงของไอเออีเอ ระบุด้วยว่าคณะผู้ตรวจสอบได้เก็บตัวอย่างทางสิ่งแวดล้อมมาด้วย ซึ่งมันจะถูกส่งไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ และทางไอเออีเอจะรายงานผลการวิเคราะห์กลับมาหลังจากนั้น
(ที่มา : รอยเตอร์)
