รัสเซียจะเจอกับผลสนองหากใช้สิ่งที่เรียกว่า "ระเบิดกัมมันตรังสี" หรืออาวุธนิวเคลียร์อื่นใดๆ จากคำเตือนของเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (24 ต.ค.) ความเคลื่อนไหวตอบโต้คำกล่าวหาของมอสโกหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ที่หาว่าเคียฟกำลังเตรียมการใช้ระเบิดกัมมันตรังสีในความขัดแย้งกับรัสเซีย
วอชิงตัน และประเทศตะวันตกอื่นๆ กล่าวหาประธานาธิบดีวาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กำลังวางแผนยกระดับความเคลื่อนไหวในยูเครน บนคำกล่าวอ้างที่ว่าเคียฟเตรียมใช้ "ระเบิดกัมมันตรังสี" ระเบิดซึ่งมีวัสดุนิวเคลียร์เจือปนอยู่
"แน่นอนว่ามันจะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความป่าเถื่อนของประธานาธิบดีปูติน หากว่าเขาใช้ในสิ่งที่เรียกว่าระเบิดกัมมันตรังสี มันจะมีผลสนองสำหรับรัสเซีย ไม่ว่าพวกเขาใช้ระเบิดกัมมันตรังสีหรือระเบิดนิวเคลียร์ เรามีความชัดเจนในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง" ไพรซ์บอกกับผู้สื่อข่าว
ไพรซ์ระบุต่อว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่ทางมอสโกต้องรู้ถึง "ลักษณะหนักหน่วงของผลสนอง" ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศของพวกเขา หากว่ารัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกายังไม่เห็นสิ่งบ่งชี้ใดๆ ที่ว่ารัสเซียกำลังเตรียมการใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการใช้ "ระเบิดกัมมันตรังสี" โหมกระพือขึ้นจากคำพูดของพวกเจ้าหน้าที่รัสเซีย ที่ออกมาเตือนว่ายูเครนกำลังเตรียมการใช้ระเบิดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าสหรัฐฯ ยังไม่เห็นเหตุผลใดๆ ที่ต้องเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของประเทศ
ด้วยกองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบเข้าสู่แคว้นยุทธศาสตร์เคียร์ซอน ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย เจ้าหน้าระดับสูงของมอสโกพูดคุยทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตะวันตกในวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) และวันจันทร์ (24 ต.ค.) บอกกับพวกเขาว่ารัสเซียสงสัยยูเครนกำลังวางแผนใช้สิ่งที่เรียกว่า "ระเบิดกัมมันตรังสี" ในความขัดแย้งกับมอสโก
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ตอบโต้กลับ โดยกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายรัสเซียเองที่กำลังวางแผนโจมตีดังกล่าวแล้วกล่าวโทษยูเครน ในขณะที่ตะวันตกก็ปฏิเสธคำกล่าวหาของรัสเซีย ว่า เป็นข้ออ้างของการยกระดับสงความที่ยืดเยื้อมานานกว่า 8 เดือน ซึ่งเริ่มขึ้นจากการที่กองกำลังรัสเซียยกพลรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
รัสเซีย มีความตั้งใจหยิบยกประเด็นนี้เข้าสู่ที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันอังคาร (25 ต.ค.) ท่ามกลางคำกล่าวหาของพวกเขาที่ว่ายูเครนกำลังวางแผนโจมตีด้วยระเบิดกัมมันตรังสี และเรียกร้องให้อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ป้องกันไม่ให้อาชญกรรมอันชั่วช้านี้เกิดขึ้น
"เราจะมองการใช้ระเบิดกัมมันตรังสีของรัฐบาลเคียฟ ว่าเป็นก่อการร้ายทางนิวเคลียร์" วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติเขียนในจดหมาย ที่ส่งถึงกูเตอร์เรส และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันจันทร์ (24 ต.ค.)
"เราเรียกร้องบรรดาประเทศตะวันตกให้ใช้อิทธิพลของพวกเขากดดันรัฐบาลในเคียฟ ให้ละทิ้งแผนอันตรายที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ" เขาเขียน "เราเรียกร้องเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ทำทุกอย่างเท่าที่อยู่ในอำนาจ ขัดขวางไม่ให้อาชญากรรมอันชั่วช้านี้เกิดขึ้น"
รัสเซียแจ้งกับบรรดาชาติสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าจะหยิบยกเรื่องนี้เข้าหารือระหว่างการประชุมลับในวันอังคาร (25 ต.ค.)
ความเคลื่อนไหวของรัสเซียในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เกิดขึ้นในขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมของประเทศในวันจันทร์ (24 ต.ค.) เผยว่าได้เตรียมพร้อมกองกำลังของพวกเขาในการปฏิบัติภารกิจภายใต้สภาพแวดล้อมปนเปื้อนกัมมันตรังสี หลังจากมอสโกกล่าวหายูเครนวางแผนจุดชนวนระเบิดกัมมันตรังสีบางอย่างที่ทางเคียฟปฏิเสธอย่างหนักแน่น
พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการทหารหน่วยป้องกันทางนิวเคลียร์ ชีวภาพและสารเคมี บอกกับสื่อมวลชนในวันจันทร์ (24 ต.ค.) ว่าเป้าหมายของการโจมตีลักษณะดังกล่าวคือหวังกล่าวโทษรัสเซียต่อเหตุปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี โดยจะกล่าวหามอสโกเป็นผู้จุดชนวนอาวุธนิวเคลียร์เกรดต่ำ
"ยูเครนต้องการวาดภาพรัสเซียในฐานะก่อการร้ายทางนิวเคลียร์" เขากล่าว "เป้าหมายของการยั่วยุครั้งนี้คือกล่าวหารัสเซียใช้อาวุธทำลายล้างในสนามรบยูเครน และด้วยอุบายนี้ พวกเขาจะสามารถเปิดโครงการรณรงค์ต่อต้านรัสเซียอันทรงพลังไปทั่วโลก"
คิริลลอฟ ปิดท้ายว่า "ในการทำงานภายใต้การจัดระบบของกระทรวงกลาโหม เพื่อตอบโต้ความเป็นไปได้ของการยั่วยุจากฝ่ายยูเครน ได้มีคำสั่งให้จัดวางกองกำลังและทรัพยากรให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี"
(ที่มา : รอยเตอร์)
