ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (2 พ.ย.) ว่าการที่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนออกมาขู่จะไม่ยอมรับผลเลือกตั้งกลางเทอมวันที่ 8 พ.ย. หากว่าตัวเองแพ้ ถือเป็นการคุกคามระบอบประชาธิปไตย และโทษว่าอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างตัวอย่างที่ไม่ดีไว้
“จงจำไว้ว่าระบอบประชาธิปไตยอยู่บนบัตรเลือกตั้งของพวกเราทุกคน” ไบเดน กล่าวสุนทรพจน์ที่ Union Station ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพียงไม่กี่วันก่อนที่คนอเมริกันทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสินว่าพรรคเดโมแครตจะได้คุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป หรือจะต้องสูญเสียอำนาจให้พรรครีพับลิกัน
ผู้นำสหรัฐฯ ยังอ้างถึงกรณีที่ พอล เพโลซี สามีของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ถูกคนร้ายบุกรุกเข้าไปในบ้านพักที่นครซานฟรานซิสโก และใช้ค้อนทุบเข้าที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัส โดยชี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าระบอบประชาธิปไตยอเมริกันกำลังถูกคุกคามอีกครั้ง หลังการบุกอาคารรัฐสภาโดยกกลุ่มกองเชียร์ทรัมป์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 เพิ่งจะผ่านพ้นมาไม่ถึง 2 ปี
“คนร้ายเข้าไปในบ้านแล้วก็ถามว่า แนนซีอยู่ไหน? แนนซีอยู่ไหน? มันเป็นคำพูดเดียวกันกับที่พวกม็อบบุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. เคยพูด” ไบเดน กล่าว พร้อมเตือนให้ชาวอเมริกัน “คิดให้รอบคอบว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน”
“ขณะที่ผมยืนอยู่ที่นี่วันนี้ มีผู้สมัครบางคนที่เตรียมจะลงชิงตำแหน่งในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าการรัฐ สมาชิกสภาคองเกรส อัยการสูงสุด รัฐมนตรีต่างประเทศ ประกาศว่าพวกเขาอาจจะไม่ยอมรับการผลเลือกตั้ง”
ผู้นำสหรัฐฯ ชี้ว่า กลุ่มคนที่ปฏิเสธผลเลือกตั้งเหล่านี้ได้แรงบันดาลใจจาก “ทรัมป์” ซึ่งกำลังคิดที่จะลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2024 ในขณะที่ตัวของ ไบเดน เองก็อยู่ระหว่างตัดสินใจเช่นกันว่า จะลงสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งเพื่อรั้งเก้าอี้ต่ออีก 4 ปีหรือไม่
ไบเดน กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยอเมริกัน “โดนโจมตี” เพราะ ทรัมป์ ไม่ยอมรับว่าตัวเองแพ้เมื่อปี 2020
“เขาไม่ยอมรับคำตัดสินของประชาชน และปฏิเสธที่จะยอมรับว่าตัวเองแพ้”
ด้านอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องความเป็นประชาธิปไตยในสังคมอเมริกัน และตระเวนพบปะฐานเสียงเดโมแครตเพื่อช่วยเหลือพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนศึกเลือกตั้งกลางเทอม หลังมีแนวโน้มว่าฝ่ายรีพับลิกันอาจจะชนะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ซึ่งหมายความว่า ไบเดน จะผลักดันนโยบายสำคัญต่างๆ ได้ยากขึ้น
แม้การทุจริตเลือกตั้งจะเกิดขึ้นน้อยมากในสหรัฐอเมริกา แต่ผลสำรวจล่าสุดโดยรอยเตอร์/อิปซอส เมื่อวันจันทร์ (31 (ต.ค.) พบว่า มีคนอเมริกันถึง 49% ที่คิดว่าการโกงเลือกตั้งเป็นปัญหาที่แพร่หลาย โดยมีฐานเสียงเดโมแครตและรีพับลิกันที่คิดเช่นนี้ 34% และ 69% ตามลำดับ
ที่มา : รอยเตอร์