สหรัฐฯ จวกอิหร่านร่วมวงสังหารผู้คนยูเครน ระแคะระคายอาจถึงขั้นส่งมอบขีปนาวุธให้รัสเซีย

ทำเนียบขาวระบุในวันอังคาร (1 พ.ย.) อิหร่านเจตนามีส่วนร่วมเข่นฆ่าชีวิตชาวยูเครน ด้วยการมอบโดรนโจมตีแก่รัสเซีย สำหรับทำสงครามกับเคียฟ และส่งเสียงแสดงความกังวลว่าเตหะรานอาจส่งขีปนาวุธให้แก่มอสโกด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน ก็วิตกเกี่ยวกับภัยคุกคามของอิหร่านที่มีต่อซาอุดีอาระเบีย และบอกว่าจะตอบโต้โดยไม่ลังเล หากมีความจำเป็น

ด้วยการจัดหาอาวุธให้แก่รัสเซีย รัฐบาลอิหร่านเกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าชีวิตประชาชนชาวยูเครนผู้บริสุทธิ์ จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าว "แก่นของมันคือ รัฐบาลในเตหะรานทำให้ตนเองเป็นผู้สมรู้รวมคิดอย่างเปิดเผยและโดยตั้งใจ ในการฆาตกรรมประชาชนชาวยูเครนผู้บริสุทธิ์บนแผ่นดินยูเครน"

เคอร์บี เน้นว่าอิหร่านจัดหาโดรนโจมตีให้แก่รัสเซีย ซึ่งถูกใช้ก่อความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานของยูเครนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เขาไม่ยืนยันรายงานข่าวที่ระบุว่า เตหะรานการส่งขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปให้รัสเซียด้วยเช่นกัน

"เรายังคงกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะมอบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่ภาคพื้นแก่รัสเซีย เรายังไม่เห็นสิ่งยืนยันอย่างชัดเจน แต่นั่นคือสิ่งที่เรากังวล" เขากล่าว

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างโฆษกทำเนียบขาวรายหนึ่งเปิดเผยในวันอังคาร (1 พ.ย.) ว่าสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามของอิหร่านที่มีต่อซาอุดีอาระเบีย และจะไม่ลังเลที่จะตอบโต้ถ้ามีความจำเป็น

"เรามีความกังวลเกี่ยวกับภาพของภัยคุกคาม และเรายังคงติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางด้านการทหารและข่าวกรองกับซาอุดีอาระเบีย" โฆษกทำเนียบขาวระบุ "เราจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของเราและพันธมิตรของเราในภูมิภาค"

คำกล่าวของโฆษกทำเนียบขาว มีขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่าซาอุดีอาระเบีย ได้แบ่งปันข้อมูลกับสหรัฐฯ เตือนว่าอิหร่านใกล้ลงมือโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในประเทศของพวกเขา

หลังจากกล่าวหาอิหร่านจัดหาโดรนแก่รัสเซียสำหรับใช้ในสงครามยูเครน ทางสหรัฐฯ ได้หยุดความพยายามรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับชาติมหาอำนาจ ที่ทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ ขณะนั้น พาอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวในปี 2018

ถ้อยแถลงแสดงจุดยืนปกป้องซาอุดีอาระเบียของสหรัฐฯ มีขึ้นแม้ว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีความไม่ลงรอยกับริยาด หลังจากโอเปกพลัสที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ตัดสินใจลดกำลังผลิตน้ำมัน ไม่สนเสียงคัดค้านจากไบเดน ซึ่งโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับราคาเบนซินที่พุ่งทะยานในสหรัฐฯ

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)