อิหร่านประณามอย่างดุเดือดต่อเสียงเรียกร้องของฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ที่ขอให้ทางสหประชาชาติสืบสวนข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียใช้โดรนที่มีต้นทางจากเตหะรานโจมตียูเครน
นาสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุในวันเสาร์ (22 ต.ค.) ว่าเสียงเรียกร้องกลุ่มประเทศที่เรียกว่า E-3 เป็นเท็จและไร้สาระ และบอกว่าพวกเขาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นและประณามอย่างรุนแรง
เคียฟบอกว่ารัสเซียใช้โดรนโจมตีชาเฮด-136 ที่ผลิตโดยอิหร่านโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในยูเครน โดยมันจะร่อนเข้าหาเป้าหมายและเกิดการระเบิดเมื่อตกกระทบ
"รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในความพยายามหาทางปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและเพื่อคุ้มกันสิทธิอันสง่างามของประชาชนชาวอิหร่าน เราขอสงวนไว้ซึ่งสิทธิในการตอบโต้การกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบใดๆ" เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านอ้างคำสัมภาษณ์กับคานานี
"เราจะไม่ลังเลในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนชาวอิหร่าน" เขากล่าว โดยปราศจากให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ในหนังสือที่ลงนามโดยผู้แทนทูตประจำสหประชาชาติของแต่ละประเทศ 3 ชาติมหาอำนาจยุโรปสนับสนุนเสียงเรียกร้องของทางยูเครนเมื่อวันจันทร์ (17 ต.ค.) ที่ขอให้สหประชาชาติเปิดการสืบสวน โดยอ้างว่าการใช้โดรนละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 2231 ซึ่งรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน 2015
ระหว่างกล่าวปราศรัยในวันเสาร์ (22 ต.ค.) ประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน ใช้น้ำเสียงท้าทายต่อการขายยุทโธปกรณ์ทางทหารทั่วไปของอิหร่าน ว่า ในเวลานี้ประเทศของเขากำลังเป็นว่าที่ส่งออกอาวุธยอดนิยม
เตหะรานปฏิเสธว่าไม่ได้จัดหาโดรนใดๆ ให้ก่มอสโกในสงครามยูเครน
ไรซี กลาวระหว่างเดือนทางเยือนต่างแดนเมื่อเร็วๆ นี้ ในนั้นรวมถึงร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนิวยอร์ก "ผู้คนเดินมาหาผม ขอให้เราขายสินค้าทางทหารให้พวกเขา ผมถามพวกเขากลับว่า ทำไมต้องเป็นเรา มีประเทศอื่นมากมายหลายชาติ พวกเขาตอบกลับว่า เพราะของคุณดีกว่า"
เขาไม่ได้เจาะจงชนิดอาวุธที่ประเทศอื่นของซื้อหรือชาติไหนที่ทาบทามขอซื้ออาวุธจากเขา แต่บอกว่า "มันได้สร้างความโกรธเคืองแก่เหล่าศัตรูของอิหร่าน พวกที่ไม่ต้องการเห็นเราเติบโตพิชิตตลาดต่างๆ"
(ที่มา : อัลจาซีราห์)