xs
xsm
sm
md
lg

คว่ำบาตรเข้าตัว! ซีอีโอเชลล์เตือนยุโรป เสี่ยงเจ็บปวดจากวิกฤตพลังงานในระยะยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยุโรปเสี่ยงเผชิญความเจ็บปวดจาก "การปันส่วนทางอุตสาหกรรม" สืบเนื่องจากวิกฤตพลังงานที่เสี่ยงก่อปัญหาทางการเมืองต่างๆ จากคำเตือนของซีอีโอบริษัทเชลล์ ในวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) ระหว่างที่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่แห่งนี้เข้าร่วมโครงการก๊าซธรรมชาติในกาตาร์

เบน ฟาน เบอร์เดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเชลล์ บรรลุข้อตกลงสำหรับเข้าถือหุ้น 9.3% ในโครงการ North Field South ของบริษัทกาตาร์ เอเนอร์จี ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในความพยายามเพิ่มกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ของกาตาร์อีก 50% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

ในพิธีลงนามในกรุงโดฮา ทาง ฟาน เบอร์เดน กล่าวว่า อุตสาหกรรมยุโรปเสี่ยงได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสจากวิกฤตพลังงาน ซึ่งเลวร้ายลงจากปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ฟาน เบอร์เดน บอกว่ายุโรปลดการบริโภคอย่างเห็นผลและลดลงอย่างมาก หลังสูญเสียอุปทานก๊าซรัสเซีย 120 ล้านตันต่อปี แต่ "การลดการบริโภคมากมายเช่นนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยการปิดการทำงานของภาคอุตสาหกรรม"

ยุโรปดิ้นรนค้นหาแหล่งพลังงานทางเลือกอื่นๆ มาแทนที่ก๊าซรัสเซีย แต่ ฟาน เบอร์เดน บอกว่ายุโรปต้องการก๊าซแอลเอ็นจีปริมาณมหาศาลต่อเนื่องหลายทศวรรษ

"คนจำนวนมากพูดว่า แค่ปิดเครื่องทำความร้อน หรือไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ" เขากล่าว "แต่ก็มีคำถามเช่นกันว่า ทำไมเราถึงไม่ปิดโครงการปุ๋ยที่เรามี หรือลดการผลิตปิโตรเคมีบางอย่าง และการปันส่วนทางอุตสาหกรรมนั้น หากว่ามันเกิดขึ้นเป็นเวลานานมันจะกลายเป็นสิ่งถาวร"

ฟาน เบอร์เดน ระบุว่า พบเห็นความสัมฤทธิผลอยู่บ้างในยุโรป ในแนวทางลดอุปสงค์ทางพลังงาน แต่ "บางส่วนในนั้นกลับเป็นข่าวร้ายอย่างแท้จริงสำหรับระยะยาว ข่าวร้ายที่ชื่อว่าการปันส่วนทางเศรษฐกิจหรือปันส่วนทางอุตสาหกรรม"

ซีอีโอของเชลล์ ซึ่งจะเกษียณอายุการทำงานในช่วงสิ้นปี ระบุว่าการปรับลดการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอาจฟื้นความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้บ้าง แต่มันก็นำมาซึ่งความเสี่ยงต่างๆ เช่นกัน "การทำมันในขอบเขตนี้มันกะทันหันเกินไป และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญความท้าทายต่างๆ ผมคิดว่ามันจะก่อแรงกดดันต่อเศรษฐกิจยุโรป และบางทีอาจก่อแรงกดดันมากมายต่อระบบการเมืองในยุโรปเช่นกัน"

เชลล์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นบริษัทยุโรปแห่งที่ 2 ต่อจากโททาลเอเนอร์จีส์ของฝรั่งเศส ที่เข้าถือหุ้นใน North Field South

การขยายขอบเขตโครงการ North Field ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซที่ผ่านการตรวจสอบแล้วใหญ่ที่สุดในโลก มีเจตนาเพื่อเพิ่มกำลังผลิตก๊าซแอลเอ็นจีของกาตาร์ อีก 50% เป็นราวๆ 127 ล้านตันต่อปีภายในปี 2027

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก เชลล์ และโททาลเอเนอร์จีส์ เพิ่งเข้าถือหุ้นในโซนตะวันออกของโครงการ North Field เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา "ก๊าซธรรมชาติมีความสำคัญมากขึ้นตามหลังความยุ่งเหยิงทางภูมิรัฐศาสตร์เมื่อเร็วๆ นี้" รัฐมนตรีพลังงานกาตาร์กล่าวแสดงความยินดีกับข้อตกลงที่ทำกับบริษัทเชลล์

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น