สงครามฤดูหนาว! ยูเครนต้องทนเย็นยะเยือก หลังรัสเซียยิงถล่มโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

รัสเซียยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกใส่โรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานอื่นฟทั่วยูเครนในวันเสาร์ (22 ต.ค.) โดยการโจมตีก่อไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ในหลายแคว้น ท่ามกลางคำเตือนว่าปฏิบัติการโจมตีของมอสโกอาจทำให้กรุงเคียฟต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้และเครื่องทำความร้อนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในขณะที่ฤดูหนาวคืบคลานใกล้เข้ามาแล้ว

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกว่าการโจมตีของรัสเซียเป็นการโจมตีในขอบเขตที่กว้างขวางมาก แต่เขาประกาศกร้าวว่าทหารของเขาจะปรับปรุงศักยภาพการสอยขีปนาวุธภายใต้ความช่วยเหลือของบรรดาพันธมิตร แม้ที่ผ่านมาจะทำได้ดีอยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน พวกเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในแคว้นเคอร์ซอน ทางภาคใต้ของยูเครน เร่งเร้าพลเรือนอพยพหลบหนีในทันที อ้างถึงสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการทหาร

อีกด้านหนึ่ง กองทัพยูเครนเผยว่า ทหารของพวกเขากำลังมีความคืบหน้าในการรุกคืบไปทางทิศใต้ผ่านแคว้นเคอร์ซอน ยึดคืนหมู่บ้านอย่างน้อย 2 แห่ง หลังกองกำลังรัสเซียล่าถอยไป

นับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นมา รัสเซียเปิดฉากถล่มโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าของยูเครนอย่างหนัก ซึ่งเล่นงานโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนไปแล้วอย่างน้อยๆ ครึ่งหนึ่ง และเกือบ 40% ของระบบทั้งหมด

ไม่นานหลังจากรุ่งสาง บรรดาเจ้าหน้าที่ในแคว้นต่างๆ รายงานเหตุโจมตีที่ตั้งทางพลังงานและปัญหาไฟฟ้าดับ ในขณะที่เหล่าวิศวกรพยายามกู้คืนเครือข่ายทางพลังงานและไฟฟ้าเหล่านั้น ส่วนผู้ว่าการแคว้นต่างๆ แนะนำให้ประชาชนกักตุนน้ำไว้อุปโภคบริโภค

หลายพื้นที่ของกรุงเคียฟเกิดไฟฟ้าดับจนถึงช่วงเย็น ในเขตหนึ่งย่านใจกลางเมืองหลวง ห้างร้านต่างๆ ต้องปิดบริการและสัญญาณไฟจรจาจรใช้งานไม่ได้

"ภูมิประเทศของการโจมตีครั้งใหญ่รอบล่าสุดนี้นับว่ากว้างขวางมาก" เซเลนสกี กล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอในตอนกลางคืน อ้างถึงแคว้นต่างๆ ในภาคตะวันตก ภาคกลางและภาคใต้ของยูเครน "แน่นอนว่าเราไม่ได้มีศักยภาพทางเทคนิคในการสอยขีปนาวุธและโดรนโจมตีของรัสเซียแบบ 100% แต่ผมมั่นใจว่า อย่างค่อยเป็นค่อยไป เราจะบรรลุเป้าหมายนั้น ภายใต้ความช่วยเหลือจากพันธมิตรของเรา จนตอนนี้เราสามารถสอยร่วงขีปนาวุธร่อน และโดรนส่วนใหญ่"

เขาบอกว่ากองกำลังยูเครนยิงขีปนาวุธร่วง 20 ลูก และโดรนชาเฮดที่ผลิตโดยอิหร่านมากกว่า 10 ลำในวันเสาร์ (22 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการกองทัพอากาศเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธใส่ยูเครน 33 ลูก ในนั้น 18 ลูกถูกสอยร่วง

พวกผู้เห็นเหตุการณ์ในเมืองมีโคลาอิฟ ทางภาคใต้ของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ ว่าเกิดไฟฟ้าดับเป็นเวลาหลายชั่วโมง และสัญญาณโทรศัพท์มือถือขัดข้อง

ในเมืองนิโคโปล ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปกติแล้วรัสเซียจะยิงถล่มจากฐานที่มั่นฝั่งตรงข้ามแม่น้ำดริโปร เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเตือนว่าไซเรนแจ้งเตือนภัยการโจมตีทางอากาศอาจใช้งานไม่ได้ เนื่องจากไฟดับ และจะส่งรถฉุกเฉินแล่นไปทั่วเมืองแทน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางอากาศที่กำลังคืบคลานเข้ามา

เซเลนสกีบอกว่า คณะทำงานกับเร่งดำเนินการกู้ไฟฟ้าในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ หลังจากที่ คีรีโล ทีโมเชนโก ที่ปรึกษของประธานาธิบดี บอกก่อนหน้านี้ว่ามีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้

มีคาอิโล โพโดลยัค ผู้ช่วยของประธานาธิบดีเซเลนสกี เชื่อว่ารัสเซียต้องการก่อคลื่นผู้ลี้ภัยระลอกใหม่ไหลบ่าเข้าสู่ยุโรป ด้วยปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว ในขณะที่ ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า การโจมตีต่างๆ เหล่านี้เข้าองค์ประกอบของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

มอสโกยอมรับว่าเล็งเป้าหมายถล่มโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีเป้าหมายเล่นงานพลเรือน

ยูเครเนอร์โก ผู้ปฏิบัติการเครือข่ายไฟฟ้าแห่งรัฐ บอกว่าการโจมตีเล็งเป้าหมายโครงขายส่งไฟฟ้าในทางตะวันตกของยูเครน และจำเป็นต้องจำกัดอุปทานในแคว้นต่างๆ 10 แห่ง ในนั้นรวมถึงกรุงเคียฟ

"ขอบเขตความเสียหายพอๆ กับหรืออาจมากกว่าผลลัพธ์ของการโจมตีระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม" ยูเครเนอร์โกเขียนบนเทเลแกรม อ้างถึงการโจมตีระบบไฟฟ้าระลอกแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เปโตร แพนเทเลฟ รองหัวหน้าคณะบริหารกรุงเคียฟ เตือนว่าการโจมตีของรัสเซียอาจทำให้เมืองหลวงของยูเครนต้องปราศจากไฟฟ้าและเครื่องทำความร้อนเป็นเวลาหลายวันหรืออาจหลายสัปดาห์

ในเคอร์ซอน ซึ่งเชื่อมยูเครนไปยังแหลมไครเมีย ดินแดนที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 พบเห็นพลเมืองหลายพันคนอพยพข้ามแม่น้ำดนิโปร ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังมีคำเตือนเกี่ยวกับเค้ารางที่กองกำลังยูเครนจะเปิดฉากโจมตีรุกคืบเพื่อยึดคืนเมืองแห่งนี้

ทั้งนี้ ในวันเสาร์ (22 ต.ค.) ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนอีกรอบ แต่คราวนี้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วน

(ที่มา : รอยเตอร์)