xs
xsm
sm
md
lg

บ.จีน Xpeng เปิดตัว ‘รถยนต์บินได้’ ครั้งแรกที่ดูไบ หวังเป็นทางเลือกระบบขนส่งในอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท Xpeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ทำการทดสอบ “รถยนต์บินได้” ครั้งแรกที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นทางเลือกสำหรับการคมนาคมขนส่งในยุคอนาคต

การเปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกมีขึ้นที่ Skydive Dubai หลังจากที่ "Xpeng X2" ผ่านขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง และได้รับอนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งดูไบ (DCAA) เป็นที่เรียบร้อย โดยการทดสอบครั้งนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 150 คน

ผู้ผลิตระบุว่า การทดสอบรถยนต์บินได้ต้นแบบโดยปราศจากคนขับเป็นเวลา 90 นาที ถือเป็น “พื้นฐานที่สำคัญสำหรับรถยนต์บินได้ยุคอนาคต”
“เรากำลังค่อยๆ เปิดตัวยานพาหนะรุ่นนี้สู่ตลาดนานาชาติ” หมิงกวาน ชิว ผู้จัดการทั่วไปของ Xpeng Aeroht ระบุ

“สาเหตุที่เราเลือกเปิดตัว X2 ที่ดูไบ ก็เพราะว่าที่นี่เป็นเมืองที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก”

Xpeng X2 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยแผนกการบินของ Xpeng Inc ในนครกว่างโจว ถือเป็นหนึ่งในโครงการรถยนต์บินได้กว่า 10 โครงการทั่วโลกในปัจจุบัน ทว่ายังมีเพียงไม่กี่โครงการที่ประสบความสำเร็จในการบินทดสอบพร้อมผู้โดยสาร และคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่ายานพาหนะประเภทนี้จะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย

แม้การเปิดตัว X2 เมื่อวันจันทร์ (10) จะเป็นการขึ้นบินแบบรถเปล่า แต่ Xpeng ยืนยันว่าเคยทำการบินทดสอบแบบมีผู้โดยสารแล้วเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ปี 2021


แม้การเปิดตัว X2 เมื่อวันจันทร์ (10) จะเป็นการขึ้นบินแบบรถเปล่า แต่ Xpeng ยืนยันว่าเคยทำการบินทดสอบแบบมีผู้โดยสารแล้วเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ปี 2021

Xpeng X2 เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบ 2 ที่นั่งที่สามารถขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) ขับเคลื่อนด้วยใบพัด 8 ตัวซึ่งติดตั้งอยู่ที่มุมทั้ง 4 ของยานพาหนะ และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตร (80 ไมล์) ต่อชั่วโมง

ตัวห้องโดยสารถูกออกแบบเป็นรูปทรงหยดน้ำ (teardrop-shaped) โดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการบิน ผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ ยังปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็น “ศูนย์” ขณะทำการบิน ซึ่งทำให้ Xpeng X2 เป็นตัวเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังเหมาะสำหรับการเดินทางข้ามเมืองในระยะใกล้ รวมถึงการบินชมวิวทิวทัศน์ หรือการขนส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล เป็นต้น

ทางบริษัทระบุด้วยว่า สิ่งที่ทำให้ eVTOL แตกต่างจากเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ทั่วๆ ไปก็คือ มันสามารถ “พาผู้โดยสารเดินทางแบบเป็นส่วนตัว จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว” และคาดว่าวันหนึ่งยานพาหนะแบบไร้คนขับนี้อาจจะช่วยให้ผู้คนสามารถเดินทางข้ามระหว่างเมืองได้โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติดอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าบินได้ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ การควบคุมการจราจรทางอากาศและความปลอดภัย รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับการใช้งาน

ที่มา : รอยเตอร์, เอพี






กำลังโหลดความคิดเห็น