ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) กล่าวหายูเครนบงการเหตุระเบิดรุนแรงที่ก่อความเสียหายแก่สะพานหลักที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับแหลมไครเมีย หนึ่งวันก่อนหน้านี้ พร้อมให้คำนิยามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น "ก่อการร้าย"
"ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือการก่อการร้ายที่เล็งเป้าหมายทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนอันสำคัญยิ่ง" ปูตินกล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านช่องเทเลแกรมของเครมลิน "มันเป็นแผนการ ดำเนินการและสั่งการโดยหน่วยพิเศษของยูเครน"
ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นหลังจากในตอนเช้าวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) รัสเซียยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่อาคารอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่ง และอาคารที่พักอาศัยอื่นๆ ในเมืองซาปอริซเซีย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และบาดเจ็บ 89 คน
การโจมตีช่วงรุ่งสางดังกล่าวถือเป็นเหตุโจมตีเมืองแห่งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วัน
ปูติน พบปะกับ อเล็กซานเดอร์ บาสทรีคิน หัวหน้าคณะกรรมาธิการสืบสวนของรัสเซีย ซึ่งนำเสนอผลการสืบสวนในสิ่งที่เขาระบุว่าเป็นเหตุระเบิดของยานพาหนะคันหนึ่งเมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) จากนั้นก็ตามด้วยไฟลุกไหม้สะพาน
เหตุระเบิดบนสะพานที่ทอดข้ามช่องแคบเคิร์ช เส้นทางลำเลียงเสบียงหลักสำหรับกองกำลังมอสโกที่สู้รบอยู่ทางภาคใต้ของยูเครน เรียกความยินดีปรีดาจากบรรดาเจ้าหน้าที่ยูเครนในวันเสาร์ (8 ต.ค.) แต่ไม่ได้กล่าวอ้างความรับผิดชอบ
สะพานแห่งนี้ยังเป็นเส้นเลือดหลังของเมืองท่าเซวาสโตโพล เมืองอันเป็นที่ตั้งของกองเรือทะเลดำของรัสเซีย
บาสทรีคิน เผยว่า ทีมสืบสวนได้สรุปเส้นทางที่รถบรรทุกคันดังกล่าวใช้และบรรดาบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยบอกว่ายานพาหนะคันนี้แล่นผ่านบัลแกเรีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย เซาท์ออสซีเชีย และแคว้นคราสโนดาร์ของรัสเซีย ก่อนมาถึงสะพาน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสะพาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการผนวกแหลมไครเมียของรัสเซีย เกิดขึ้นท่ามกลางความพ่ายแพ้ในสมรภูมิรบหลายต่อหลายสมรภูมิ และอาจกัดกร่อนความเชื่อของทางเครมลินมากยิ่งขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ พวกเขามั่นใจว่าสถานการณ์ความขัดแย้งกำลังเป็นไปตามแผน
การขนส่งทางรถไฟ และการใช้รถใช้ถนนบนสะพานสามารถกลับมาสัญจรได้แล้วบางส่วน หนึ่งวันหลังจากเกิดเหตุระเบิด โดยในภาพถ่ายที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) พบเห็นภาพสะพานถนนขาดไปเลนหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งยังคงอยู่สภาพเดิมอยู่
รัสเซียยึดไครเมียมาจากยูเครนในปี 2014 และสะพานข้ามช่องแคบเคิร์ชความยาว 19 กิโลเมตร ที่เชื่อมไครเมียกับโครงข่ายการขนส่งของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทำพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในอีก 4 ปีต่อมา พร้อมขับรถบรรทุกก่อสร้างข้ามสะพานเป็นคันแรก
เซอร์เก อัคสโยนอฟ ผู้ว่าการแหลมไครเมียของรัสเซีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไครเมีย มีเชื้อเพลิงและอาหารเพียงพอสำหรับประชาชน อย่างน้อย 1 และ 2 เดือนตามลำดับ ส่วนกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในวันเสาร์ (8 ต.ค.) ว่าทหารของพวกเขาในทางภาคใต้ของยูเครน จะยังคงได้รับ "เสบียงอย่างเต็มกำลัง" ผ่านเส้นทางทางภาคพื้นและทางทะเลที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ทำเนียบขาวในวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับเหตุระเบิดสะพานไครเมีย แต่บอกว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าป้อนอาวุธแก่ยูเครน
เคียฟต้องการให้กองกำลังรัสเซียออกจากแหลมริมทะเลดำแห่งนี้ เช่นเดียวกับดินแดนของยูเครน ที่พวกเขายึดครองในปฏิบัติการรุกรานที่เปิดฉากในเดือนกุมภาพันธ์
โฆษกกองทัพเปิดเผยว่า ยูเครนสามารถทวงคืนแดนในแคว้นเคอร์ซอน ทางภาคใต้ของประเทศได้มากกว่า 1,170 ตารางกิโลเมตรแล้ว นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีตอบโต้สายฟ้าแลบในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
ยูเครนประสบความสำเร็จในการจู่โจมสายฟ้าแลบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ความพยายามรุกไล่ฐานที่มั่นของรัสเซียตามริมตลิ่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร ไม่ค่อยมีความคืบหน้ามากนัก
(ที่มา : รอยเตอร์)