เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว 2 ลูก ในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) ถือเป็นการยิงครั้งที่ 7 ของเปียงยางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งซ้ำเติมความกังวลในวงกว้างแก่ วอชิงตัน และ 2 พันธมิตร อย่างโตเกียวและโซล
ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก พุ่งสู่ระดับความสูง 100 กิโลเมตร และพุ่งเป็นระยะทาง 350 กิโลเมตร จากการเปิดเผยของ โทชิโร อิโนะ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น พร้อมระบุว่า ลูกแรกถูกยิงออกมาตอนราว 01.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 23.47 น.) ส่วนลูกสองถูกยิงออกมาในอีก 6 นาทีต่อมา
เขาบอกว่าขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก ตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าขีปนาวุธที่ยิงออกมานั้นเป็นชนิดใด ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัวยิงจากเรือดำน้ำ
กองทัพสหรัฐฯ ระบุว่ากำลังปรึกษาหารือใกล้ชิดกับพันธมิตรและคู่หูตามหลังการยิงดังกล่าว ซึ่งพวกเขาบอกว่ามันตอกย้ำถึงผลกระทบบ่อนทำลายเสถียรภาพจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ประเมินว่าการยิงล่าสุดนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามบุคลากรสหรัฐฯ หรือพันธมิตรของอเมริกา "ความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการปกป้องเกาหลีใต้และญี่ปุ่นยังคงแข็งขัน" กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกแห่งกองทัพสหรัฐฯ ในฮาวาย ระบุในถ้อยแถลง
ในส่วนของกองทัพเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงว่า การยิงขีปนาวุธรอบล่าสุดของเกาหลีเหนือ "เป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรง" และกัดกร่อนสันติภาพ พร้อมเผยว่าขีปนาวุธทั้ง 2 ลูกถูกยิงออกมาจากเขตมุนชอน แถบชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ
พวกเจ้าหน้าที่ในกรุงโซลระบุว่า การยกระดับยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพวกเขาใกล้กลับมาทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้งทุกขณะ ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 หลังสังเกตพบความเคลื่อนไหวเตรียมพร้อมที่สถานที่ทดสอบมานานหลายเดือน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (4 ต.ค.) เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธแบบทิ้งตัวลูกหนึ่ง พุ่งไกลกว่าที่ผ่านๆ มา บินข้ามญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี กระตุ้นให้ทางการญี่ปุ่นต้องออกคำเตือนถึงประชาชนให้หาที่กำบัง
อิโนะ บอกว่าญี่ปุ่นจะไม่อดทนใดๆ กับพฤติกรรมซ้ำรอยของเกาหลีเหนือ ในขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดนี้ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธรอบที่ 7 ของเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน
เกาหลีเหนือระบุในวันเสาร์ (8 ต.ค.) ว่าการทดสอบขีปนาวุธของพวกเขาเป็นการทดสอบเพื่อป้องกันตนเองจากภัยคุกคามโดยตรงจากกองทัพสหรัฐฯ และไม่ได้เป็นอันตรายกับความปลอดภัยของบรรดาประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค
"การทดสอบขีปนาวุธของเราเป็นเรื่องปกติ เป็นแผนวัดประสิทธิภาพการป้องกันตนเอง เพื่อปกป้องประเทศของเราและความสงบของภูมิภาคจากภัยคุกคามทางทหารโดยตรงจากสหรัฐฯ" สำนักข่าวเคซีเอ็นเอรายงานอ้างคำพูดของโฆษกสำนักงานบริหารการบิน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือ มีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ทำการซ้อมรบร่วมทางทะเลในวันศุกร์ (7 ต.ค.) หนึ่งวันหลังจากโซลส่งฝูงบินขับไล่เกือบ 30 ลำขึ้นสู่ท้องฟ้า ตอบสนองต่อฝูงบินรบเกาหลีเหนือ 12 ลำเป็นอย่างน้อย ที่ดูเหมือนกำลังบินซ้อมทิ้งระเบิดใกล้พรมแดนระหว่าง 2 ชาติ
(ที่มา : รอยเตอร์)