รัฐบาลมาเลเซียตกลงที่จะยกเลิกโทษประหารชีวิตภาคบังคับ และจะแทนที่ด้วยบทลงโทษอื่นๆ ตามดุลพินิจของศาล
วัน จูไนดี ตวนกู จาฟาร์ (Wan Junaidi Tuanku Jaafar) รัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายของมาเลเซีย ออกมาแถลงย้ำคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลเสือเหลืองเคยให้ไว้เมื่อ 3 ปีก่อนวันนี้ (10 มิ.ย.) พร้อมระบุว่า คณะรัฐมนตรีเห็นพ้องที่จะพิจารณาใช้บทลงโทษอื่นๆ ทดแทนสำหรับความผิดที่มีโทษถึงประหารชีวิต
มาเลเซียระงับการประหารชีวิตนักโทษมาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลยังให้คำมั่นว่าจะยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาคบังคับ หรือเป็นไปตามดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ดี รัฐบาลมาเลเซียได้พลิกจุดยืนดังกล่าวในปี 2019 โดยระบุเพียงว่าจะยกเลิกโทษประหารชีวิตภาคบังคับ แต่ยังคงให้อำนาจศาลในการพิจารณาสั่ง “แขวนคอ” ได้ในกรณีที่ผู้ต้องหากระทำความผิดอาญาร้ายแรง
วัน จูไนดี ระบุว่า การตัดสินใจล่าสุดนี้เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมการทบทวนบทลงโทษของรัฐบาล ทว่ายังไม่ขอให้กรอบเวลาที่ชัดเจนว่าการแก้กฎหมายจะเริ่มเมื่อไหร่
“การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิของทุกฝ่าย และเพื่อให้การปรับปรุงระบบยุติธรรมทางอาญาเป็นไปอย่างโปร่งใส”
กฎหมายมาเลเซียกำหนดระวางโทษประหารชีวิตสถานเดียวสำหรับความผิดฐานลักลอบขนยาเสพติดและฆาตกรรม ทว่ากฎหมายยังเปิดทางให้ศาลใช้ดุลพินิจในการสั่งประหารชีวิตผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรงอื่นๆ ด้วย
องค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ (HRW) ออกมาแถลงชื่นชมคำประกาศของรัฐบาลมาเลเซียว่าเป็นพัฒนาการเชิงบวก แต่ย้ำว่ามาเลเซียจะต้องทำให้ได้ตามที่พูด
“เราต้องการเห็นมาเลเซียแก้ไขกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อทำให้คำมั่นสัญญานี้เป็นจริง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียหลายต่อหลายชุดต่างให้สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนต่างๆ แต่เกิดผลในทางปฏิบัติน้อยมาก” ฟีล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการ HRW ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าว
ที่มา : รอยเตอร์