การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาสของยูเครน "มีความสำคัญลำดับต้นๆ โดยปราศจากข้อแม้" สำหรับมอสโก ส่วนดินแดนอื่นๆ ของยูเครนนั้นควรตัดสินใจอนาคตของพวกเขาเอง จากคำกล่าวของ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันอาทิตย์ (29 พ.ค.)
ลาฟรอฟ ให้สัมภาณ์กับสถานีโทรทัศน์ TF1 สื่อมวลชนของฝรั่งเศส ในขณะที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการรุกรานเพื่อควบคุมเมืองสำคัญต่างๆ ในภูมิภาคดอนบาส ดินแดนอุตสาหกรรมดั้งเดิมของยูเครน ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูฮันสก์
เขาเน้นย้ำคำกล่าวอ้างของมอสโกที่ระบุว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" ในยูเครนของพวกเขาเพื่อปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนาโต้แผ่ขยายขอบเขตมาทางทิศตะวันออก และกวาดล้างสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็น "พวกชาตินิยมที่มีนาซีเป็นแรงบันดาลใจ" ในขณะที่เคียฟและตะวันตกระบุว่า คำกล่าวหาเหล่านั้นเป็นเพียงข้ออ้างไร้สาระที่มีเป้าหมายยึดครองดินแดน
"การปลดปล่อยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธรัฐรัสเซียในฐานะรัฐเอกราช คือความสำคัญลำดับต้นๆ ที่ปราศจากข้อแม้" ลาฟรอฟระบุในถ้อยแถลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
ส่วนดินแดนอื่นๆ ที่เหลือในยูเครน เขาตอบว่า "ผมไม่เชื่อว่าพวกเขาจะมีความสุขนักในการกลับสู่อำนาจการปกครองของนีโอนาซี ที่พิสูจน์แล้วว่าแก่นแท้ของพวกเขาคือความเกลียดชังรัสเซีย คนเหล่านี้ต้องตัดสินใจอนาคตของตนเอง"
เขาบอกว่าการรุกรานของรัสเซียกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากบรรดาประเทศตะวันตกทั้งหลายไม่ใส่ใจเสียงเตือนกับสิ่งที่พวกเรียกว่า ความเฉยเมยและการโจมตีทางทหารของยูเครน เล่นงานพลเรือนชาวยูเครนที่พูดภาษารัสเซีย
ยูเครนปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีใดๆ เล่นงานพลเมืองที่พูดภาษารัสเซีย
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียหันมามุ่งเน้นในภูมิภาคดอนบาส หลังล้มเหลวในการรุกคืบและถอนกำลังออกจากพื้นที่โดยรอบกรุงเคียฟและภูมิภาคอื่นๆ
"ใช่ มีผู้คนเสียชีวิต" ลาฟรอฟกล่าว "แต่ปฏิบัติการใช้เวลานานมากในเบื้องต้น เพราะว่าทหารรัสเซียที่เข้าร่วมอยู่ภายใต้คำสั่งอย่างเข้มงวด ให้หลีกเลี่ยงโจมตีและเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน"
การรุกรานของรัสเซีย ซึ่งเวลานี้เข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว ได้เข่นฆ่าชีวิตผู้คนในยูเครนแล้วหลายพันราย และหลายล้านคนต้องไร้ถิ่นฐาน จากข้อมูลของสหประชาชาติ พบว่า เวลานี้มีชาวบ้านมากกว่า 6.7 ล้านคนที่ลี้ภัยออกจากยูเครน นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์
สำนักงานอัยการสูงสุดของยูเครน กำลังสืบสวนคำกล่าวหารัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามราวๆ 14,388 คดี และมีทหารรัสเซีย 7 นาย สารภาพผิดในคดียิงปืนใหญ่ถล่มยูเครน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต
(ที่มา : รอยเตอร์)