เครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียและจีนออกบินลาดตระเวนร่วมใกล้เขตป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในวันอังคาร (24 พ.ค.) ในวันบอกลาประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ปิดฉากการเยือนเอเชีย และล่าสุดเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกเข้าหาทะเลญี่ปุ่นในวันพุธ (25 พ.ค.) หนึ่งวันหลังจากไบเดน สิ้นสุดการเดินทางเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกในฐานะผู้นำอเมริกา
การลาดตระเวนร่วมของครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียและจีน มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ไบเดน โหมกระพือความขุ่นเคืองแก่ปักกิ่ง ด้วยการบอกว่าเขามีความตั้งใจใช้กำลังทหารปกป้องไต้หวัน หากว่าไทเปถูกจีนโจมตี และเกิดขึ้นในขณะที่เขากำลังหารือเกี่ยวกับแนวทางตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซียกับบรรดาผู้นำในกลุ่ม Quad ที่ประกอบด้วยสหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเปิดเผยว่าพวกเขาส่งฝูงบินรบขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังตรวจพบเครื่องบินรบรัสเซียและจีนบินเฉียดใกล้น่านฟ้าของพวกเขา ระหว่างที่โตเกียวกำลังเป็นเจ้าภาพการประชุมบรรดาผู้นำกลุ่ม Quad พร้อมตำหนิการฝึกซ้อมร่วมดังกล่าวว่าเป็นการยั่วยุ
ปฏิบัติการนี้ถือเป็นการฝึกฝนร่วมทางทหารครั้งแรกระหว่างจีนกับรัสเซีย นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสรายหนึ่งของสหรัฐฯ และมันเกิดขึ้นในช่วงท้ายของโปรแกรมเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 วัน ของประธานาธิบดีไบเดน
"จีนไม่ได้กำลังเดินออกห่างจากรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกซ้อมในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าจีนพร้อมช่วยรัสเซียป้องกันทางตะวันออก ในระหว่างที่รัสเซียกำลังสู้รบอยู่ทางตะวันตก" เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว
เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวระหว่างแถลงสรุปว่า การลาดตระเวนร่วมดังกล่าวได้บินข้ามทะเลญี่ปุ่น และมุ่งหน้าต่อผ่านทะเลจีนตะวันออกและทะเลฟิลิปปินส์ เขามองว่าการฝึกซ้อมครั้งนี้ดูเหมือนเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี และแสดงให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์ความเป็นพันธมิตรแบบ "ไร้ขีดจำกัด" ระหว่างปักกิ่งกับมอสโกที่ประกาศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนรัสเซียรุกรานยูเครน นั้น "ยังอยู่ดี"
"ในอีกด้านหนึ่ง ความสำเร็จของการเดินทางเยือนของประธานาธิบดี พิสูจน์ได้ว่ามันตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่เราได้เห็นจากรัสเซียและจีน มันแสดงถึงพันธสัญญาของเราต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง" เขากล่าว
การเดินทางเยือนเอเชียของไบเดน เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของสหรัฐฯ ในการตอบโต้สิ่งที่วอชิงตันเรียกว่า "พฤติกรรมบีบบังคับ" ของปักกิ่ง ในนั้นรวมถึงกับไต้หวัน เกาะปกครองตนเองที่ปักกิ่งอ้างความเป็นเจ้าของ
ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (23 พ.ค.) ไบเดน ตอบว่า "ใช่" เมื่อถูกถามว่าเขามีความตั้งใจตอบโต้ด้วยกำลังทหารหรือไม่หากจีนโจมตีไต้หวัน ดูเหมือนเป็นการฉีกนโยบายที่ยืดถือกันมาช้านาน ที่เรียกว่า "ความคลุมเครือเชิงกลยุทธ์" เกี่ยวกับแนวทางการแทรกแซงทางทหารเพื่อปกป้องไต้หวันในกรณีที่ถูกจีนโจมตี
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (24 พ.ค.) เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไบเดนยืนยันว่า นโยบายของอเมริกาต่อไต้หวันยังคงเดิม ซึ่งเขาย้ำไปแล้วระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ (23 พ.ค.)
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่าการลาดตระเวนร่วมกินเวลาราวๆ 13 ชั่วโมง เหนือทะเลญี่ปุ่นและทะเลจีนตะวันออก และเกี่ยวข้องกับฝูงบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-95 และเครื่องบินทิ้งระเบิด Xian H-6 ของจีน
เครื่องบินจากกองทัพอากาศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เฝ้าติดตามเครื่องบินของรัสเซียและจีนที่เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อม ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ ส่วนกระทรวงกลาโหมจีนบอกว่าการบินฝึกฝนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบประจำปี และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งสันนิษฐานว่ากองเรือของกองทัพเรือจีนน่าจะเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ด้วย
โนบูโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "โตเกียวได้ถ่ายทอดความกังวลใหญ่หลวงไปยังรัสเซียและจีนผ่านช่องทางด้านการทูตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราเชื่อว่าข้อเท็จจริงที่ว่าความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมซัมมิต Quad ทำให้มันคือการยั่วยุหนักกว่าอดีตที่ผ่านๆ มา"
ดาเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก สมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา แสดงความคิดเห็นว่าการส่งเครื่องบินทหารเฉียดใกล้น่านฟ้าญี่ปุ่น ระหว่างการมาเยือนของไบเดนและผู้นำคนอื่นๆ "เป็นความเคลื่อนไหวท้าทายด้วยความหงุดหงิดของปักกิ่งและมอสโก ต่อความเป็นอันหนึ่งเดียวกันมากขึ้นของบรรดามหาอำนาจประชาธิปไตยหลักๆ ของโลก"
เกาหลีใต้เปิดเผยว่ามีเครื่องบินรบจีนอย่างน้อย 4 ลำ และเครื่องบินรบรัสเซีย 4 ลำ ล่วงล้ำเข้ามาในเขตป้องกันภัยทางอากาศของพวกเขาหลายต่อหลายครั้งในวันดังกล่าว
ระหว่างการประชุมกันเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ และไบเดน ให้คำมั่นสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่ถูกมองว่าเป็นมาตรการตอบโต้อิทธิพลในภูมิภาคของจีน และวิพากษ์วิจารณ์สงครามของรัสเซียในยูเครน
แหล่งข่าวด้านการทหารในกรุงโซลเผยว่า เกาหลีใต้ไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการฝึกซ้อมดังกล่าว และพอเห็นเครื่องบินกำลังมุ่งหน้าสู่เขตป้องกันภัยทางอากาศของพวกเขาก็ได้ใช้สายด่วนแจ้งเตือนไปยังจีนและรัสเซีย
จีนตอบกลับมาว่ามันเป็นการฝึกฝนตามปกติ ส่วนทางรัสเซียไม่ตอบใดๆ กลับมา แหล่งข่าวระบุ
ล่าสุด กองทัพของเกาหลีใต้เปิดเผยว่าตรวจพบเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูก พุ่งเข้าหาทะเลญี่ปุ่นในตอนเช้าวันพุธ (25 พ.ค.) หรือเพียง 1 วัน หลังจากประธานาธิบดีไบเดน ปิดฉากโปรแกรมเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกในฐานะผู้นำสหรัฐฯ
เสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงว่า พวกเขา "ตรวจพบขีปนาวุธแบบทิ้งตัว 3 ลูก ยิงออกมาจากพื้นที่เมืองซูนาน ตอนเวลา 06.00 น. (ตรงกับเมืองไทย 04.00 น.) 06.37 น. และ 06.42 น."
ยามชายฝั่งของญี่ปุ่นเตือนเกี่ยวกับ "ความเป็นไปได้ที่จะเป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัว" ถูกยิงออกมาจากเกาหลีเหนือ แจ้งเตือนเรือทั้งหลายให้อยู่ห่างจากบริเวณที่วัตถุอาจร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ยุน ซอก-ยอล จะเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงตอนเวลา 07.30 น. เพื่อหารือเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือ
ยุน ซึ่งเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อช่วงต้นเดือน ประกาศใช้แนวทางแข็งกร้าวกับเปียงยาง หลังแนวทางด้านการทูตประสบความล้มเหลวตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
การยิงทดสอบในวันพุธ (25 พ.ค.) ถือเป็นการทดสอบอาวุธหนล่าสุดจากหลายต่อหลายครั้งในปีนี้ของเปียงยาง ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร ในนั้นรวมถึงการยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปแบบเต็มพิสัยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือ มีขึ้นไม่กี่วันหลัง ไบเดน เดินทางออกจากเกาหลีใต้ในวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ในขณะที่การเยือนครั้งนี้ถูกบดบังจากคำเตือนของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ระบุว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนืออาจดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ระหว่างที่ ไบเดน อยู่ในเอเชีย
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)