เล่อ อี้ว์เฉิง (Le Yucheng) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เตือนสหรัฐฯ ให้ระวัง “ผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดา” หากคิดจะใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือเล่นงานจีน พร้อมย้ำว่าปักกิ่งไม่หวั่นเกรงการถูกคว่ำบาตรเหมือนที่รัสเซียโดน
ในเวทีเสวนาด้านความมั่นคงออนไลน์ซึ่งจัดโดยสมาคมการทูตสาธารณะแห่งประเทศจีน (China Public Diplomacy Association) และมหาวิทยาลัยเหรินหมิน (Renmin University) เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 พ.ค.) เล่อ ระบุว่าเป็นเรื่อง “น่าขำ” ที่ตะวันตกจะโยนให้จีนรับผิดชอบเรื่องที่รัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครน และชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังใช้ยูเครนเป็นสมรภูมิเพื่อผลประโยชน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ของตัวเอง
จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อยที่ไม่ยอมประณามการกระทำของรัสเซียในยูเครน ขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรต่างแสดงความกังวลเรื่องความมั่นคงของไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งถือว่าเป็น “มณฑลทรยศ” ที่จะต้องถูกนำกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ในสักวันหนึ่ง แม้จะต้องใช้กำลังก็ตาม
เมื่อเอ่ยถึงคำเตือนจากสหรัฐฯ ที่ว่าจีนอาจจะโดนบทลงโทษทางเศรษฐกิจแบบเดียวกับที่รัสเซียโดนหากคิดรุกรานไต้หวัน เล่อ ชี้ว่า “จีนจะต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว” และเมื่อนั้นการคว่ำบาตรหรือการโดดเดี่ยวใดๆ “ย่อมไม่สามารถทำให้จีนเกรงกลัวได้”
“มีมรสุมอะไรบ้างที่เราไม่เคยผ่านมันมา นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อกว่า 70 ปีมาแล้ว” เล่อ ตั้งคำถาม พร้อมชี้ว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้สหรัฐฯ ใช้มาตรการข่มขู่จีนสารพัด ตั้งแต่การรีดภาษีสินค้าจีน ลดความร่วมมือ และจับกุมพลเมืองจีนฐานเป็นสปาย แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถที่จะบ่อนทำลายจีนลงได้
“จีนไม่เพียงไม่ล้มเท่านั้น แต่เรายังมีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน แล้วมีอะไรอีกที่จีนจะต้องกลัว” เล่อ กล่าว
สำหรับประเด็นไต้หวัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนย้ำว่า “ไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน” และไม่ควรถูกนำไปเปรียบเทียบกับเรื่องยูเครน
“บางคนย้ำนักย้ำหนาเรื่องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนยูเครน แต่กลับล้ำเส้นเรื่องจีนเดียว (One China) และสนับสนุนให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราช”
“ระยะหลังๆ มานี้ สหรัฐฯ เข้ามาข่มขู่จีนถึงหน้าประตูบ้าน ระดมคนจากแวดวงต่างๆ ที่ต่อต้านจีน และถึงขั้นหยิบยกประเด็นไต้หวันมาวิพากษ์วิจารณ์เสียใหญ่โต เพื่อที่จะท้าทายเส้นแดง (red line)”
“นี่มันไม่ใช่การขยายสู่ตะวันออกของนาโตในเวอร์ชันเอเชีย-แปซิฟิกหรอกหรือ? ถ้ายังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมไม่อาจคาดเดา หรืออาจจะทำให้เอเชีย-แปซิฟิกต้องลุกเป็นไฟในที่สุด” เล่อ เตือน
รัฐมนตรีผู้นี้ยังปกป้องจุดยืนของจีนที่มีต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยชี้ว่า ปักกิ่ง “ไม่ได้มีส่วนร่วมกับปัญหายูเครน และไม่ใช่ผู้ที่ก่อการรุกราน”
เล่อ ยังเตือนทุกฝ่ายว่าไม่ควรจะ “บิดเบือน” ความหมายของคำว่า “ความร่วมมือไร้ขีดจำกัด” ในถ้อยแถลงร่วมระหว่างจีนกับรัสเซีย ซึ่งมีขึ้นก่อนที่มอสโกจะส่งทหารบุกยูเครนไม่นานนัก และไม่ควรใช้คำพูดนี้มากล่าวหาจีนว่า “รู้ล่วงหน้า” และ “สนับสนุน” การก่อสงครามของรัสเซีย
“มันเป็นเพียงถ้อยแถลงธรรมดาๆ เท่านั้น อันที่จริงเราหมายถึงมิตรภาพระหว่างจีนกับทุกประเทศ จีนไม่เคยมีข้อจำกัดในความร่วมมือกับใคร และไม่จำเป็นต้องมีด้วย” เล่อ กล่าว
เล่อ ยังกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าไม่คำนึงถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับยุโรป
“เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่พวกเขาแคร์ไม่ใช่การเจรจาสันติภาพ ไม่ใช่การยุติสงคราม และไม่ใช่ชีวิตของชาวยูเครน หากแต่เป็นการใช้ยูเครนเหมือนสินค้าที่บริโภคให้หมดไปได้ (consumables) เป็นเสมือนปืนใหญ่ที่จะยิงรัสเซียให้พ่ายแพ้ และพวกเขายังใช้ชีวิตคนยูเครนเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่ยิ่งใหญ่ และเพื่อเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ของตนเอง”
“ด้วยการใช้ยูเครนเป็นเครื่องสังเวยเช่นนี้ พวกเขากำลังทำให้รัสเซียอ่อนแอลง และเปิดทางในการเข้าควบคุมยุโรปเพื่อคงความเป็นเจ้าโลกต่อไป ช่างได้ประโยชน์หลายต่อจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาดูแฮปปี้กับสงครามครั้งนี้”
เล่อ ยังเตือนว่ามาตรการคว่ำบาตรจะบั่นทอนเศรษฐกิจนานาชาติ และจะส่งผลกระทบต่อประชาคมโลกทั้งมวลในที่สุด
“มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งด้านอาหาร พลังงาน และการเงิน ระเบียบความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกกำลังตกอยู่ในอันตราย”
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์, yahoo news